HealthDoo.Today

เว็บไซต์ความรู้ด้านสุขภาพ และความงาม

กระเทียม สมุนไพรประจำบ้านที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

กระเทียม

กระเทียม เป็นพืชสมุนไพรเก่าแก่มีฤทธิ์ทางยาหลายอย่าง เป็นพืชตระกูลเดียวกับหัวหอม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังมีสารอะดีโนซีน ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย จึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทำอาหารก็อร่อย และมีคุณสมบัติหลากหลายส่งผลดีต่อสุขภาพ กระเทียม นั้นมีสรรพคุณไม่ธรรมดาเลย กระเทียม ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินบี แคลเซียม แมงกานีส ซีลีเนียม แอนตี้ออกซิแดนท์หรือที่เรียกว่าสารต้านอนุมูลอิสระช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง และยังมีสารประกอบของกำมะถันที่ชื่อว่า อัลลิซิน มีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะ ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบ กระเทียม ลดไขมัน วิธีรับประทานกระเทียม ควรเลือกกระเทียมที่หัวแน่น ๆ ไม่ฝ่อ เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน สด ไม่เน่า ไม่มีราขึ้น และหากอยากได้รสชาติของกระเทียมแบบแรง ๆ ควรเลือกกระเทียมหัวเล็ก ๆ สารอัลลิซินใน กระเทียม จะต้องผ่านการหั่น สับ ทุบ หรือบด จึงควรหั่น สับ ทุบ หรือบดกระเทียมก่อนนำมาปรุงอาหาร 5-10 นาที โดยสารอัลลิซินจะไม่สลายเมื่อถูกความร้อน เพราะฉะนั้นจะทานสด หรือจะปรุงอาหารในน้ำมันก็ไม่เป็นไร ปริมาณกระเทียมที่ควรทานต่อวัน ในวัยผู้ใหญ่สามารถทานกระเทียมได้ราว ๆ 4 กรัมต่อวัน แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินกว่านี้ติดต่อกันเกิน 10 วัน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงภาวะเลือดแข็งตัวช้า หรือเลือดไหลไม่หยุดเมื่อเกิดบาดแผล

ประโยชน์ของกระเทียม

1.แก้ปัญหาผมหลุดร่วง

ปัญหาผมหลุดร่วงคงเป็นปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะสาวผมยาว กระเทียม ช่วยยับยั้งปัญหานี้ได้ เพียงแค่ฝานกระเทียมเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำมานวดศีรษะ หรือจะผสมลงในออยล์แล้วนำมานวดศีรษะก็ได้ ในกระเทียมมีอัลซิลิน (allicin) และซัลเฟอร์ (sulfur) สูง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดปัญหาผมหลุดร่วงนั่นเอง

2.รักษาสิว

กระเทียม ถือเป็นยารักษาสิวจากธรรมชาติ เพราะมีแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยฝานกระเทียมสดบาง ๆ แล้วนำมาประคบลงบนสิวเบา ๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยนำสะอาด 

3.ป้องกันและรักษาโรคหวัด

การรับประทานกระเทียมเป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการหวัด เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส อีกทั้งมีรสเผ็ดร้อน ช่วยขยายทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น ซึ่ง สามารถรักษาหวัดได้ง่าย ๆ ด้วยการหั่นกระเทียมเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่น ๆ หรือจะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำขิงเข้าไปก็ได้ ถ้าทนกลิ่นไม่ไหว 

4.บรรเทาอาการอักเสบจากโรคสะเก็ดเงิน

กระเทียมมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการอักเสบจากผื่นแดงได้ดี โดยเฉพาะผื่นแดงจากโรคสะเก็ดเงิน ให้ทาน้ำมันกระเทียมบริเวณที่เป็นแผล เพื่อให้สะเก็ดหลุดไป และลดผื่นแดงบนผิวหนัง

5.ถอนเสี้ยน

เสี้ยนที่ตำเท้าหรือมือทำให้เจ็บแปลบ กำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการแปะกระเทียมฝานบาง ๆ แล้วพันทับด้วยผ้าพันแผล 6. กำจัดกลิ่นเท้า ปัญหากลิ่นเท้าเกิดจากการที่เท้าเจอความอับชื้น ทำให้เกิดเชื้อรา ตามมาด้วยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และอาการคัน แต่แก้ได้ง่าย ๆ แค่แช่เท้าลงในน้ำอุ่นผสมกระเทียมบด ทิ้งไว้สักพัก เพราะในกระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา

6.ไล่ยุงและแมลงสัตว์กัดต่อย

หากทากระเทียมลงบนแขนขา ยุงและแมลงสัตว์กัดต่อยทุกชนิดจะมารบกวนน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทา ด้วยการผสมน้ำมันกระเทียม ปิโตรเลียมเจล และขี้ผึ้งเข้าด้วยกัน หรือจะทากระเทียมสด ๆ ลงบนแขนขาก็ได้ น้ำมันในกระเทียมสามารถนำมาทาลดพิษคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ โดยใช้กระเทียมสดทุบพอมีน้ำออก แล้วนำกลีบกระเทียมมาทาถูจุดที่โดนแมลงสัตว์กัดต่อย

7.รักษาโรคส่าไข้

โรคส่าไข้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Human Herpesvirus Type 6(HHV 6) ซึ่งอาการของโรคจะคล้ายคลึงกับโรคหัด หรืออีสุกอีใส เพราะจะเกิดตุ่มแดง และแผลอักเสบบนร่างกาย ซึ่งวิธีรักษาแค่นำกระเทียมบดมาประคบลงบนแผลลดอาการอักเสบและลดอาการบวม หากการรับประทานอาหารเสริมจากสารสกัดกระเทียม เช่น กระเทียมอัดเม็ด หรือน้ำมันกระเทียมก็จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

8.ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง

กระเทียม สามารถช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีมากขึ้นนั่นเอง 11.ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  กระเทียมเป็นพืชที่มีไฟเบอร์อยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งไฟเบอร์ที่อยู่ในกระเทียมมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 12.ด้านระบบย่อยอาหาร กระเทียมช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารของร่างกาย กระเทียมสดช่วยกระตุ้นน้ำย่อย(กรดไฮโดรคลอลิก)ในกระเพาะอาหารให้หลั่งออกมาย่อยอาหารในปริมาณมากขึ้น และเสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสารอาหารจำพวกโปรตีน

9.ปกป้องการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือด

กระเทียม สามารถช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและไขมันชนิดไม่ดีที่ร่างกายไม่ต้องการคือ LDL ในกระแสเลือด และช่วยเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดีคือ HDL ในกระแสเลือด เพื่อใช้ในการเก็บโคเลสเตอรอลที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ของร่างกายไปทำลายที่ตับ

10.ฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง

กระเทียมออกฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง โดยไปกดการแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ 

11.ฤทธิ์ต้านการอักเสบ

กระเทียมออกฤทธิ์ต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบางชนิด 

12.ลดอาการแน่นท้อง จุกเสียด

กระเทียม มีสาร Gastroenteric allechalcone ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของลำไส้จึงช่วยลำเลียงอาหารในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ทำให้เกิดการขับลม ลดอาการแน่นท้อง จุกเสียดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อยได้ 

13.รักษากลากเกลื้อนที่เกิดจากเชื้อรา

น้ำมันสกัดจาก กระเทียม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย ดังนั้นโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน กระเทียมก็สามารถบรรเทาอาการให้ได้ โดย ฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ถูบริเวณผิวหนังที่เป็นกลาก เกลื้อน วันละ 2 ครั้ง หลังจากนั้นให้ขูดผิวด้วยไม้บาง ๆ ที่ทำการฆ่าเชื้อแล้ว พอให้ผิวเป็นสีแดงอมชมพูแล้วจึงทายารักษากลาก เกลื้อนทับอีกครั้ง จะช่วยให้ยาซึมลงบนผิวหนังได้ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่า กระเทียม สมุนไพรประจำบ้านที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมาจากสารอัลลิซิน (Allicin) ที่เป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น การ รับประทานกระเทียม กระเทียม ลดไขมัน เป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียม เป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงได้อีกด้วย healthdoo คุณประโยชน์มากมายจริง ๆ ค่ะ