วิธีแก้ง่วง กลางวันไม่ยอมตื่นแต่ตอนกลางคืนไม่ยอมหลับ
หลาย ๆ คนจะมีอาการตอนกลางวันไม่ยอมตื่นแต่ตอนกลางคืนไม่ยอมหลับ วิธีแก้ง่วง ตอนเช้าก็ลุกจากเตียงยากแสนยาก แถมพอตอนบ่าย ๆ ดันง่วงและพาลไม่มีสมาธิทำงาน
อาการง่วงนอนในเวลาทำงาน โดยเฉพาะช่วงบ่าย ๆ ที่หลายคนมักบอกว่า เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน อาการง่วงนอนหากเกิดขึ้นแล้ว ไม่ได้นอนพักผ่อนผลข้างเคียงที่อาจตามมาก็คือ รู้สึกปวดหัวหรือมึนงง วิธีแก้ง่วง ไม่ได้นอน ทำงานไม่ได้ สมาธิไม่จดจ่ออยู่ที่งาน และยังเป็นอันตรายหากง่วงนอนในขณะขับรถ หรือทำงานควบคุมเครื่องจักร
Table of Contents
สาเหตุของการง่วงนอน
อาการของคนทำงานเมื่อเริ่มง่วงนอน จะเริ่มมีอาการง่วงซึมหรือหาวอยู่ตลอด สาเหตุของการง่วงนอนตอนบ่าย หรืออาการง่วงในขณะทำงานเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น
- เกิดจากการนอนดึก หรือนอนน้อย การพักผ่อนที่ดีอย่างน้อยต้องนอนประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อนอนน้อยร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดอาการง่วง
- เกิดจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศที่เย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศในห้องทำงาน บรรยากาศที่เงียบสงบ รู้สึกผ่อนคลายทำให้เกิดอาการง่วงได้
- อาการง่วงที่เกิดจากการทำงานมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน เกิดอาการอ่อนเพลียอ่อนล้าทำให้มีอาการง่วงนอนได้ทุกเวลา
วิธีแก้อาการง่วงนอน
1.ลุกขึ้นเดินเปลี่ยนอิริยาบถ
หากเริ่มรู้สึกง่วง ให้ลองลุกจากโต๊ะ เดินไปรอบ ๆหรือเดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน จะสามารถเพิ่มระดับพลังงานให้สูงขึ้น และลดอาการอ่อนล้าได้ ทำห้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าสู่สมอง หลอดเลือดและกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นการช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่นขึ้น หรือจะบิดขี้เกียจ ยืดเส้นยืดสาย ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ แกว่งแขนยืดเส้นยืดสายด้วยท่ากายบริหารแบบง่าย ๆ ยกไหล่ขึ้นลง เพื่อลดอาการไหล่แข็งเกร็ง ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่โต๊ะทำงานของคุณเอง ขอแค่ให้ได้ขยับตัวสักหน่อย เพื่อเป็นการกระตุ้นร่างกาย ดีกว่านั่งอยู่เฉย ๆ
2.ให้หูทำงานเพิ่มขึ้น
ถ้าเราเกิดง่วงขึ้นมาแล้วนั่งทำงานนิ่งๆ เฉยๆ ต่อไปแบบนั้น มีแต่จะทรมานเปล่า หาหูฟังใส่สบายสักอัน ลองหาเพลงที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองหรือเพลงที่ฟังแล้วสนุกสนาน หรือเพลงที่จังหวะมันส์ ๆ มาฟังก็ช่วยได้ เพราะคลื่นความถี่จะเข้าไปกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราให้ตื่นตัวมากขึ้นการฟังเพลงขณะทำงาน จะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มสมาธิได้อีกด้วย และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หาเพลงสนุกๆ ฟัง หลายคนทำงานกันจนไม่ได้สนใจฟังอะไรเลย และพอง่วงงานก็หยุดชะงัก ทำให้ตื่นตัวเปิดฟังระหว่างทำงานไปด้วย จะทำให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น แต่อย่ามันส์มากจนลืมทำงานล่ะ
3.พักสายตาบ้าง
วิธีพักสายตาที่ดีที่สุด ก็คือการเดินไปที่หน้าต่าง และมองออกไปด้านนอกไกล ๆ การละสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้าง หรือลองปรับเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเดินออกไปสูดอากาศภายนอกสักครู่หนึ่ง จะทำให้ลดปัญหาเรื่องอาการปวดศีรษะ ล้า และแสบตาน้อยลงได้ ดวงตาจะรู้สึกสบายขึ้น และการมองภาพวิวภายนอก จะทำให้คุณรู้สึกสบายตา และสบายใจขึ้นด้วย
4.ดื่มน้ำมาก ๆ
วิธีแก้ง่วงที่ได้ผลดีก็คือการดื่มน้ำหรือดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ เพื่อให้รู้สึกสดชื่น ดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันเยอะ ๆ ประโยชน์ของน้ำเปล่ามีมากมายจริง ๆ จิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ ได้สุขภาพที่ดีและยังคลายง่วง เพราะการดื่มน้ำเปล่าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระดับออกซิเจนในร่างกาของเราเพิ่มขึ้น ทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้น
เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ จะทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลียและง่วงนอน การดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีน้ำอยู่ในปริมาณมาก เช่น ผัก และผลไม้ จะช่วยลดความอ่อนเพลียลงได้ สามารถช่วยให้หายง่วงได้ และควรดื่มน้ำแบบจิบ ๆ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอทำให้สมองของคุณสดชื่น โดยน้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุ่นอุณหภูมิห้อง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนมาเลี้ยงเลือดได้ทันที
5.กินขนมขบเคี้ยว (ที่มีประโยชน์)
การลดปริมาณอาหารของมื้อหลักให้น้อยลง และกินขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์มากขึ้น ลองหาผลไม้ผลไม้เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เช่น ส้ม สับปะรด มะม่วง มะยม สามารถช่วยให้หายง่วงได้ดี ทั้งสดชื่น ตาสว่าง แต่อย่าทานจนมากเกินไป หรืออาจจจะเป็น Snack non-fat ติดโต๊ะทำงานไว้สักหน่อยก็ไม่เลว จะทำให้เกิดพลังงานในร่างกายอย่างเพียงพอ และไม่มีพลังงานส่วนเกินที่จะมาทำให้ง่วงนอน
6.เอาน้ำเย็นเข้าช่วย
เมื่อรู้สึกง่วง การใช้น้ำเย็นล้างหน้าหรือใช้ผ้าเย็น ๆเช็ดหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลบความง่วงได้ผลดีที่สุด จะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ และหายจากอาการง่วงนอน
7.งีบหลับแก้ง่วง
ถ้าง่วงมากนักก็หลับไปเลย การงีบหลับครั้งละ 5-25 นาที แต่ไม่ควรนอนเกินครึ่งชั่วโมง สามารถช่วยคลายง่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ช่วงพักเบรก หรือพักเที่ยง ทำให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนสักนิด พอตื่นขึ้นมา จะรู้สึกสดชื่นและสมองปลอดโปร่งมากกว่าเดิมความจำดีขึ้นด้วย
8.นอนหลับตอนกลางคืนให้เต็มอิ่ม
ให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แต่ถ้านอนไม่หลับ หรือหลับยาก ก็เป็นสาเหตุทำให้ตัวเองนอนไม่พอ โดยลองปรับเปลี่ยนเวลาดู ถ้าปกตินอนเที่ยงคืนลองขยับมานอนเร็วขึ้นสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมง เพิ่มเติมเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนมากขึ้นกันดีกว่า หรืออาจจะลองดื่มนมอุ่น ๆ กล้วย หรือน้ำผึ้งมาทานก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือจะหาน้ำมันหอมระเหยอย่างลาเวนเดอร์ มาดมดู จะช่วยคลายความเครียด ทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน
9.ออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้า
แสงแดดตอนเช้า ๆ ก่อน 9 โมง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อของคุณไปสู่สมองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รู้สึกตื่น และสดชื่นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
10.มื้อหลักให้เลี่ยงคาร์โบไฮเดรต
ถ้ามื้อเที่ยงที่จัดเต็มกับอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ก็อาจทำให้ช่วงบ่าย ๆ มีอาการง่วงซึมได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่หนักแป้ง หนักน้ำตาล จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น เพื่อเร่งย่อยอาหารในปริมาณมากให้แล้วเสร็จ ก็จะทำให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองมีน้อยลง หรือไหลเวียนช้าลง ทำให้เราง่วงซึม เฉื่อยชา
11.บอกลาของหวาน
ของหวานเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน จะไปทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ทีนี้น้ำตาลในเลือดเราก็จะสูงขึ้นไปด้วย ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกง่วงนอนตามมา เพราะฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งหรือของหวาน ยิ่งถ้าเลือกอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาล อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตก็จะทำให้ง่วงได้อย่างง่ายดาย เพราะอาหารพวกนี้จะทำให้ร่างกายต้องส่งเลือดไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้นเพื่อเร่งการย่อย ทำให้เลือดที่จะไปเลี้ยงสมองน้อยลงนั่นเอง
12.ฝึกลมหายใจปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้น
จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลัง ตื่นตัวแก้ง่วงได้ดี เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่สมอง เริ่มจากนั่งหลับตา พยายามหายใจเข้าออกถี่ ๆ ทางจมูก วินาทีละ 3 รอบจะดีมาก ทำไปจนกระทั่งรู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอ เหนือกระดูกไหปลาร้า และที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม ลองทำแบบนี้ติดต่อกันสัก 15 วินาที แล้วกลับมาหายใจแบบปกติ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 1 นาที 13. ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง หรือดื่มน้ำชา กาแฟ ที่มีสารคาเฟอีน
13.ดมยาดม
ความเย็นจาสมุนไพรจะช่วยให้ตื่นตัวขึ้น
14.ลดความเครียดระหว่างวัน
ความเครียดทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เมื่อความเครียดลดลงก็จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียน้อยลง
15.ดื่มกาแฟดำ กาแฟดำ มีสารคาเฟอีน
ซึ่งเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อลดความง่วง ความเหนื่อยล้า และกาแฟดำยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก เช่น ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม สามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดได้
จะเห็นได้ว่ามีวิธีแก้อาการง่วงนอน healthdoo.today ที่ทำได้พร้อมกันหลายวิธี โดยอาจจะพักปรับเปลี่ยนอิริยาบถพร้อม ๆ กับการฟังเพลง ดื่มเครื่องดื่ม รับประทานของว่างประเภทผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือหาโอกาสงีบหลับอย่างน้อย 10 นาทีหรือนั่งหลับตานิ่ง ๆ เพื่อพักสายตาแล้วล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ก็สามารถทำให้คนที่มีอาการง่วงนอนรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ วิธีแก้ง่วง ไม่ได้นอน เมื่อร่างกายสดชื่นการทำงานก็จะมีประสิทธิภาพดีดังเดิม และปลอดภัย