ครีมหน้าขาว เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับผิวหน้าของเรา

ครีมหน้าขาว

ปัจจุบันนี้ด้วยสภาพอากาศ และ มลภาวะแสงแดดที่ร้อนแรงส่งผลให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยความหมองคล้ำ และ จุดด่างดำ ครีมหน้าขาวจึงเป็นทางเลือกสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการมีผิวขาวใส ดูเปล่งประกาย มีออร่า การที่สาว ๆ มีใบหน้าที่สวยขาวกระจ่างใสย่อมดูโดดเด่น และ เพิ่มความมั่นใจให้กับสาว ๆ ที่รักสวยรักงามกันทุกคน

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อครีมหน้าขาว เราจะต้องรู้ก่อนว่าสภาพผิวหน้าของเราเป็นอย่างไร เพราะสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งครีมหน้าขาวก็เหมือนกัน

แต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าเราต้องการใช้ครีมหน้าขาวแบบไหน และ ครีมหน้าขาวตัวไหนที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเรา

เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับหน้าของเรา

เช็กสภาพผิวหน้าก่อนซื้อครีมหน้าขาว

สภาพผิวหน้าของคนเราแบ่งออกเป็น 5 ประเภท

1. ผิวมัน จะเป็นผิวที่มีปัญหามากที่สุด เนื่องจากต่อมไขมันบนใบหน้าจะผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น

2. ผิวผสม เป็นผู้ที่มีรูขุมขนกว้างบนใบหน้าบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นผิวที่ทั้งแห้ง และ มันในหน้าเดียวกัน

3. ผิวแห้ง จะเป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากผิวประเภทนี้ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมาน้อย

4. ผิวธรรมดา ใครที่มีผิวธรรมดา ถือว่าโชคดีสุด ๆ เนื่องจากลักษณะผิวจะเรียบเนียน เห็นรูขุมขนไม่ชัด และ จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผิวแห้งหรือมัน

5. ผิวแพ้ง่าย ผิวลักษณะนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นผิวที่บอบบางเกิดรอยแดงและผิวเป็นขุยอักเสบและระคายเคืองได้ง่าย

พิจารณาคุณสมบัติของครีมหน้าขาว

เมื่อเรารู้ว่าสภาพผิวหน้าของเรามีลักษณะอย่างไร เราก็มาดูคุณสมบัติของครีมหน้าขาวว่ามีส่วนประกอบอะไร มีสารชนิดใด ยิ่งถ้าผิวเราแพ้ง่ายยิ่งต้องพิจารณาส่วนประกอบของครีมเป็นพิเศษ แล้วสารในครีมหน้าขาวที่ใช้แล้วปลอดภัยมีอะไรบ้าง เราไปดูกันค่ะ

สารในครีมหน้าขาวที่ใช้แล้วปลอดภัย

1. วิตามินอี (Vitamin E) มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสีและช่วยเพิ่มสารกลูต้าไธโอน เป็นสารสกัดที่ได้จากกลุ่มถั่ว ผัก และ น้ำมันพืช วิตามินอีจะโดดเด่นในเรื่องของการลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นต่าง ๆ ประสิทธิภาพในเรื่องความขาวยังไม่มากนัก เมื่อเทียบกับตัวอื่น

2. วิตามินซี (Vitamin C) เรื่องของความขาววิตามินซี จะดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก เป็นสารที่ได้จากผลไม้ตระกูลส้มที่เราคุ้นเคย เป็นอย่างดี วิตามินซีจะออกฤทธิ์ไปรบกวน DHICA Oxidation

เป็นตัวที่ทำให้เม็ดสีเมลานินในผิวไม่เพิ่มขึ้นจะช่วยเรื่องความสว่างใสของผิว และ จะมีจุดเด่นที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ริ้วรอยดูจางลง

3. อาร์บูติน (Arbutin) เป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะมีทั้งแบบสังเคราะห์ (Alpha Arbutin) และแบบที่ได้จากธรรมชาติ (Beta Arbutin) เช่น บลูเบอรี่ แครนเบอรี่

เป็นสารที่ให้ความขาวใส ลดฝ้า กระ และรอยดำคล้ำ แต่กว่าจะเห็นผลชัดเจนต้องใช้เวลา และ ใช้อย่างต่อเนื่องโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป แต่หากใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจเกิดผลในระยะยาว

4. สารสกัดมะหาด (Lakoocha Extract) เป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส เมื่อใช้ต่อเนื่องสามารถทำให้ผิวขาวขึ้นได้ ความเข้มข้นของสารสกัดมะหาดที่มีในครีมควรมีความเข้มข้นอย่างน้อย 1% นน./ปริมาตร

5. กรดโคจิก (Kojic Acid) ช่วยลดเม็ดสีในชั้นผิวด้วยการยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสี โดยไม่ทำให้ผิวบางและไวต่อแสงแดด ผิวจึงดูขาวใสขึ้น

6. ลิโคไลซ์ (Licorice Extract) สารสกัดจากรากชะเอมเทศ จะมีสารกลาบริติน (Glabridin) ช่วยปรับผิวให้ขาวใส เนื่องจากเป็นตัวยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน

7. สารสกัดจากถั่วเหลือง (Soybean Extract) มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซน์สร้างเม็ดสี ซึ่งไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่จะมีข้อดี คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

8. สารในกลุ่มรีอนุพันธ์รีซอซนอล (Resorcinol) มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินสีเข้ม

หากคุณใช้ครีมหน้าขาวแล้วเห็นผลเร็วเกินไป แสดงว่าครีมหน้าขาวนั้นได้มีส่วนผสมของสารอันตราย เมื่อคุณใช้แล้วเกิดอาการคัน หรืออักเสบควรหยุดใช้ทันที แล้วรีบไปพบแพทย์

สารอันตรายที่ไม่ควรมีอยู่ในครีมหน้าขาว

– ปรอท (Mercury) เป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นสารอันตรายห้ามใช้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ทำให้มีการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ลดลงจึงช่วยให้สีผิวขาวขึ้น

เมื่อเราใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดพิษสะสมในผิวหนังและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จนทำให้ตับไตอักเสบ เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ผลข้างเคียงที่พบคือ ทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวจะบางลง เกิดผ้าและกระ

– สเตียรอยด์ (Steroid) การใช้ครีมหน้าขาวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดผดผื่น ผิวหน้าบางลง เห็นเส้นเลือดแดงตามใบหน้าชัดขึ้น การใช้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

– ไฮโดรควินิน (Hydroquinone) สารตัวนี้มักถูกนำมาใช้เป็นยารักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะมีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการทางเคมีของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) ผลข้างเคียงที่พบได้คือ อาการแสบร้อน ตุ่มแดง

เกิดภาวะผิวคล้ำมากขึ้นในบริเวณที่ทา หากใช้ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดฝ้า และ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้

– กรดเรติโนอิก (Retinoic acid) การใช้ครีมทาหน้าขาว ที่มีส่วนผสมของสารนี้อย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหน้า ผิวหน้าลอก อักเสบ แพ้แสงแดดได้ง่าย หรืออาจเกิดภาวะผิวด่างขาวหรือผิวคล้ำได้

– เอเอชเอ (AHA) เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่ถูกแดดทำร้าย การใช้ต้องระวังเรื่องความเข้มข้นและระยะเวลาที่ใช้เพราะจะทำให้เกิดอาการแสบแดงร้อนบริเวณที่ทา ผิวแห้ง เกิดผื่นคัน และ ผิวจะไวต่อแสงแดด มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้

– บีเอชเอ (BHA) เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมา มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังชั้นขี้ไคลผลัดตัวได้เร็วขึ้นกว่า AHA เหมาะกับคนที่มีผิวมัน หรือ คนที่มีรูขุมขนกว้าง ผลข้างเคียงที่พบได้คือ

เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังหรือก่อให้เกิดการแพ้ เกิดภาวะผิวแห้ง เมื่อเราใช้เป็นเวลานานอาจเกิดผลกระทบต่อระบบการทำงานภายในร่างกายได้  เช่น คลื่นไส้ ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

วิธีเช็คว่าครีมไหนเหมาะกับผิวเรา

ต้องรู้ก่อนว่าเรามีผิวแบบไหน

การที่เราจะทาครีมหน้าขาวให้เหมาะกับผิวของเรานั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียวแค่เราต้องรู้ว่าเรามีผิวแบบไหน เพราะครีมหน้าขาวแต่ละตัวจะผลิตออกมาสำหรับผิวที่แตกต่างกัน เมื่อเรารู้ว่าเรามีผิวแบบไหน เราก็จะสามารถเลือกครีมที่เหมาะกับผิวของเราได้

– ผิวมัน ควรเลือกครีมหน้าขาวที่มีเนื้อบางเบา ปราศจากส่วนผสมของ oil อาจเลือกแบบโลชั่นเนื้อบางเบา แบบเจล เพื่อป้องกันปัญหารูขุมขนอุดตัน

– ผิวผสม ผิวบริเวณไหนที่แห้งมาก ควรใช้ครีมหน้าขาวที่มีเนื้อครีมหนาทา และ บริเวณช่วง T-Zone หรือ บริเวณที่ผิวมีความมัน แนะนำให้ใช้ครีมหน้าขาวที่มีเนื้อครีมบางเบากว่าทา ซึ่งลักษณะผิวแบบนี้อาจต้องใช้ครีมหน้าขาวที่เหมาะกับคนที่มีผิวมัน และ ผิวแห้ง

– ผิวแห้ง แนะนำให้ใช้ครีมหน้าขาวที่มีเนื้อหนา และ เนื้อครีมควรมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น

อ่านรายละเอียดส่วนผสมของครีมหน้าขาวก่อนเสมอ

ผิวของคนเราไม่เหมือนกัน ก่อนที่เราจะซื้อครีมหน้าขาวมาใช้สักตัว เราควรจะศึกษาอ่านส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมหน้าขาว ที่อยู่ข้างขวด หรือ ข้างกระปุกครีมว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง

และ ดูว่าในส่วนผสมนั้นช่วยผิวพรรณเราเรื่องอะไร ซึ่งสมัยนี้บางแบรนด์จะบอกสรรพคุณของส่วนผสม และ ที่สำคัญที่ควรดูก็คือ ความปลอดภัยของสินค้าความน่าเชื่อถือว่ามี อย.รับรองหรือไม่

เลี่ยงส่วนผสมที่มีสารระคายเคือง

เพื่อความปลอดภัยเราอาจไม่จำเป็นต้องรู้ทุกส่วนผสมในครีมหน้าขาว แต่ขอให้รู้ว่าส่วนผสมอะไรที่มีอยู่ในครีมหน้าขาวที่เราควรหลีกเลี่ยง นั่นหมายถึงส่วนผสมที่ก่อความระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นสารกลุ่มซัลเฟต พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสีสังเคราะห์

เลือกซื้อตามปัญหาผิวของเรา

เวลาที่เราจะเลือกซื้อครีมหน้าขาวเราก็ควรเลือกครีมที่มีคุณสมบัติที่สามารถกำจัดปัญหาผิวกวนใจของเราได้ เช่น ถ้าเรามีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ หน้าไม่กระจ่างใส

เราก็ควรหาครีมที่สามารถช่วยทำให้หน้าของเราขาวขึ้นได้ เพราะจุดประสงค์ของการทาครีมหน้าขาวก็เพื่อให้หน้าขาวใสขึ้น

สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อครีมหน้าขาวที่จะมาใช้กับหน้าของเรา อย่ามองเรื่องที่โฆษณา หรือ เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว แต่ เราควรจะคำนึงถึงส่วนประกอบในเนื้อครีมว่ามีประโยชน์ต่อเรามากน้อยแค่ไหน ช่วยให้ผิวหน้าของเราให้ขาว กระจ่างใสอย่างที่เราต้องการหรือไม่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..
1. https://women.kapook.com/view209205.html
2. https://www.sanook.com/women/152061/
3. https://www.thaisabuy.com/beauty/white-face-cream/
4. https://www.cosmenet.in.th/community/?PAGE_NAME=read&FID=35&TID=29166
5. https://www.beauty24store.com/ครีมหน้าขาวใส-ขาวใสได้อ/193.html
6. https://medthai.com/whitening-agents/
7. https://www.idskinexpert.com/knowledge/ครีมไหนเหมาะกับผิวเรา/