กดสิว วิธีกดสิวด้วยตัวเอง มีขั้นตอนการทำยังไงบ้าง

กดสิว

วิธีกดสิวในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การรับประทานยา การใช้ยาทาภายนอก ใช้สมุนไพร และรับประทานอาหารให้เหมาะสม ออกกำลังกาย และมีอีกหนึ่งวิธีที่กำลังเป็นที่นิยม นั่นก็คือการ กดสิวนั่นเองค่ะ

CR. https://si7apress.blogspot.com/2019/05/4-tips-on-how-to-treat-adult-acne.html

การกดสิวเป็นขั้นตอนการรักษาที่ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ลดการเกิดสิวใหม่ และช่วยป้องกันสิวอุดตันพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ ซึ่งมีความรุนแรงขึ้นและอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในภายหลังได้ แม้ว่าการกดสิวจะช่วยกำจัดสิวอุดตันได้

แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเสี่ยงเกิดอาการอักเสบที่รุนแรงขึ้น ดังนั้น ควรศึกษาวิธีกดสิวที่ถูกต้องและปลอดภัยก่อนตัดสินใจทำ ทั้งการกดสิวโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและการลงมือทำด้วยตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ เป็นรอยดำ รอยหลุม หรือรอยแผลเป็นค่ะ

สิวประเภทไหนเหมาะกับการกดสิว

การรักษาสิวด้วยการกดสิว เหมาะกับการใช้รักษาสิวชนิดที่ไม่อักเสบทั้งสิวหัวดำและสิวหัวขาว โดยการกดสิวต้องเน้นที่เรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ เพื่อป้องกันการอักเสบในภายหลัง

สิวประเภทไหนไม่เหมาะสำหรับการกดสิว

สิวที่ไม่เหมาะกับการกดสิวก็คือ สิวอักเสบหัวแดง เพราะนอกจากจะกดหัวไม่ออกแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นอีกด้วย

สิวประเภทไหนกดแล้วไม่เห็นผล

สิวที่กดแล้วไม่สามารถเห็นผลก็คือ สิวหัวช้างนั่นเองค่ะ

วิธีกดสิวด้วยตนเอง

การกดสิวด้วยตนเองโดยใช้นิ้วมือ 2 นิ้ว หรือใช้เล็บกดไปที่ข้าง ๆ เม็ดสิว นับว่าเป็นวิธีกดสิวที่ไม่ถูกวิธีวิธี เพราะวิธีนี้จะทำให้ผิวหน้าดำช้ำเป็นบริเวณกว้าง หรือเป็นหลุมได้ อีกทั้งสิวบางเม็ดก็ออกไม่หมดจนเกิดการติดเชื้อแล้วทำให้สิวเกิดลุกลามไม่หายขาดได้ วิธีกดสิวที่ถูกต้องคือ การใช้อุปกรณ์แทนการใช้นิ้ว หรือเล็บมือ เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อและกลายเป็นสิวอักเสบได้ค่ะ

ขั้นตอนของการกดสิว มีดังนี้

1.เตรียมอุปกรณ์

อย่างแรกเลย เราควรเลือกใช้อุปกรณ์การกดสิวที่สะอาดก่อนนะคะ ควรเลือกแบบมีเข็มเจาะในตัวเพื่อความสะดวกด้วยนะคะ นอกจากที่กดสิวแล้ว ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วยนะคะ และอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ

-น้ำอุ่น

-ผ้าขนหนู

-น้ำเกลือสำหรับล้างแผล

-แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ

-สำลี

-กระดาษทิชชู่

-ถุงมือยางอนามัย

2.ทำความสะอาด

หลังจากเตรียมอุปกรณ์กันแล้วนะคะ ก็ต้องมารักษาความสะอาดของผิวหน้ากันก่อน โดยล้างหน้าเอาสิ่งสกปรกที่อาจจะอุดตันบนใบหน้าออกก่อน หลังจากนั้นทำความสะอาดเครื่องมือด้วยการแช่กับแอลกอฮอล์ก่อนเพื่อฆ่าเชื้อก่อนจะเริ่มกดสิวด้วยนะคะ

3.เปิดรูขุมขน

หลังจากทำความสะอาดบนผิวหน้าและทำความสะอาดเครื่องมืออุปกรณ์ที่จะทำการกดสิวแล้ว ก็มาเปิดรูขุมขนด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบลงบนสิว เพื่อเปิดรูขุมขน เพื่อให้สามารถกดสิวได้ง่ายขึ้น และยังเป็นฆ่าเชื้อก่อนกดสิวอีกด้วยและที่สำคัญก่อนการเปิดรูขุมขนทางที่ดีควรสวมถุงมืออนามัยด้วยเพื่อความปลอดภัยและป้องกันเชื้อโรคค่ะ

4.กดสิว

หากใครกลัวเรื่องความสะอาด ขั้นตอนนี้ควรใส่ถุงมือก่อนจะเริ่มการกดสิว เพื่อป้องกันมือไปโดนสิวได้ค่ะ หลังจากนั้นใช้ที่กดด้านที่เป็นห่วงกดเบา ๆ และทำมุมกับผิว 45 องศาบริเวณที่เป็นสิวและควรกดเฉพาะสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำที่หัวเปิดเท่านั้น

หากฝืนกดบนหัวสิวที่ไม่ออกจะทำให้ผิวหน้าช้ำและอักเสบได้ โดยให้สังเกตมุมของสิวเพราะถ้ากดได้ตรงจะยิ่งทำให้สิวออกง่ายขึ้น ควรกดหัวสิวออกให้หมด ถ้ากดหัวสิวออกไม่หมดจะทำให้เกิดสิวซ้ำขึ้นมาได้ค่ะ

5.ล้างแผล

เมื่อกดสิวจนหมดแล้ว ให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือสำหรับล้างแผล เช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่กดสิวเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดใบหน้าให้ทั่วหลังจากนั้นใช้ยาทารักษาสิวแต้มที่บริเวณสิวหัวอักเสบจะช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นและที่สำคัญควรทายารักษาสิวเป็นประจำทุกวันจนกว่าสิวที่เรากดจะหายเป็นปกติค่ะ

วิธีดูแลตนเองหลังกดสิว

หลังการกดสิวมักจะมีอาการบวมแดงให้ใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวม เวลาล้างหน้าและเช็ดหน้าให้ทำอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทาครีมลดรอยแดง

หรืออาจจะไม่ทาก็ได้เพราะแผลประเภทนี้สามารถหายเองได้ตามธรรมชาติ และที่สำคัญหลังการกดสิวแล้วควรดูแลผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อไม่ทำให้สิวนั้นกลับมาเป็นอีกค่ะ

ผลข้างเคียงจากการกดสิว

หากกดสิวแล้วหัวสิวออกไม่หมด อาจทำให้เกิดสิวขึ้นซ้ำได้ และเมื่อสิวเม็ดเดิมไม่หาย อาจกลายเป็นสิวหัวหนองที่รักษายาก หรือถ้าลงน้ำหนักการกดมากไปด้วยความไม่ชำนาญจะทำให้หน้าช้ำ เกิดเป็นรอยดำตามมา และเกิดแผลเป็นจากสิว และหลุมสิวได้

ข้อควรระวังในการกดสิว มีดังนี้

1. การกดสิวมักจะเกิดเลือดหรือหนองออกมาด้วยเสมอ ดังนั้นต้องใช้ผ้าก๊อซซับให้สะอาด และที่สำคัญไม่ควรเช็ดวนไปทั่วใบหน้า เพราะอาจทำให้ติดเชื้อที่บริเวณอื่นได้ ส่วนบริเวณที่กดเอาหัวสิวออกให้ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือล้างแผลอีกครั้ง เพื่อป้องกันการลุกลามของสิวได้ค่ะ

2. ให้ทำความสะอาดที่กดสิวด้วยแอลกอฮอล์ก่อนเก็บ

3. ไม่ควรใช้นิ้วมือในการกด เพราะจะทำให้เป็นรอยช้ำและทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้

แม้ว่าการกดสิวจะเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยรักษาสิวได้ แต่หากไม่ทราบวิธีการกดที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ เป็นสิวในบริเวณเดิมซ้ำ ๆ หรือกลายเป็นหลุมสิวที่รักษายาก ดังนั้นหากต้องการรักษาสิวด้วยวิธีการกดสิว ควรให้ความสำคัญกับความสะอาด เครื่องมือจะต้องปลอดเชื้อ หรือวิธีที่ดีที่สุดคือ ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นผู้ทำให้จะดีที่สุดค่ะ

ข้อดีของการกดสิว

– ช่วยให้สิวอุดตันหายเร็วขึ้น การกดสิวเป็นวิธีกำจัดสิวที่รวดเร็ว ถ้ากดเอาหัวสิวออกได้สิวจะหายเร็วขึ้น

– ช่วยลดสิวอักเสบ เพราะสิวอักเสบเกิดจากสิวอุดตันที่รวมตัวกับเชื้อแบคทีเรีย ถ้าเรากดสิวออกได้ทันจะช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้

– ช่วยลดการเกิดหลุมสิว หลุมสิวส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยให้สิวอักเสบนานเกินไป ไม่รีบรักษาให้หายปล่อยให้ผิวหนังเกิดการอักเสบจนกลายเป็นแผลเป็นจากสิวในที่สุด แต่ถ้าเรากดสิวออกได้ก่อนที่มันจะอักเสบ ปัญหาหลุมสิวก็จะไม่เกิดขึ้น

ข้อเสียของการกดสิว

– ถ้ากดไม่ดี กดไม่หมดหรืออุปกรณ์การกดไม่สะอาดพอ สิวอุดตันเม็ดเล็ก ๆ ก็จะเปล่งประกายทั่วใบหน้าและจะกลายเป็นสิวอักเสบเม็ดโตขึ้นได้ และจะทำให้ยากต่อการรักษาเข้าไปอีกค่ะ

บทสรุป

การกดสิว เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ทั้งนี้หากเป็นสิวมากอาจจะต้องใช้ยารับประทานและยาทาควบคู่กันซึ่งเป็นการรักษาที่ต้นเหตุร่วมด้วย อย่างไรก็ดี วิธีรักษาสิวที่ดีที่สุด ประหยัด และไม่ต้องเจ็บตัวคือ การหันมาดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวอัน ได้แก่ การพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึกจนเกินไป

หลีกเลี่ยงความเครียด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารมัน อาหารทอด น้ำอัดลม และออกกำลังกายตามสมควร รักษาความสะอาดของใบหน้าให้ดี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่อ่อนโยน เหล่านี้นับว่า เป็นการดูแลผิวแบบครบวงจรทำให้สิวหายแบบถาวรและไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

สำหรับใครที่เป็นสิวแล้วอยากกดสิวเอง ก็อย่าลืมเลือกที่กดสิวดี ๆ  และอุปกรณ์รักษาสิว ยารักษารอยสิวกันด้วยนะคะ เพื่อป้องกันการเกิดรอยสิว เท่านี้ก็กำจัดปัญหาสิวได้ด้วยตัวเองแล้วค่ะ