ครีมลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี พร้อมขั้นตอนวิธีการใช้
Table of Contents
ครีมลดรอยสิว
ครีมลดรอยสิว เป็นตัวช่วยให้กับสาว ๆ ที่มีปัญหาจากสิวบนใบหน้า คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว เมื่อเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน ในบางครั้งหลังสิวนั้นหายไป จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซึ่งรอยสิวเหล่านั้นเป็นผลมาจากกระบวนการฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการสร้างสารคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
จึงปรากฏเป็นรอยสิวในรูปแบบต่าง ๆ บนผิวหนัง โดยการดูแลรักษาผิวหนังแต่เนิ่น ๆ หลังเกิดสิว อาจช่วยป้องกันการเกิดรอยสิวได้ ทำให้สาว ๆ นั้นหนักอกหนักใจกันเลยทีเดียว ต้องคอยหาเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติปกปิดรอยสิวมาใช้
เพื่อใบหน้าจะได้เรียบเนียน เพิ่มความมั่นใจในการออกไปพบปะผู้คนกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาแนะนำ ครีมลดรอยสิวยี่ห้อไหนดี พร้อมขั้นตอนการใช้งาน เพื่อให้สาว ๆ ได้นำไปใช้เพื่อรักษารอยแผลจากสิว จะได้มีใบหน้าที่ไร้สิว
และรอยจากสิวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ก่อนอื่นเราลองไปดูกันก่อนว่า ครีมลดรอยสิว คืออะไร รอยแผลที่เกิดจากสิวมีกี่แบบ เพื่อจะได้เลือกครีมลดรอยสิวให้เหมาะสมกับสภาพรอยสิวของเราเพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ครีมลดรอยสิว คืออะไร
ครีมลดรอยสิว คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษารอยแผลจากสิว จุดด่างดำ รอยแดง ที่หลังจากเป็นสิวก็จะมีรอยเหล่านี้เกิดขึ้นที่ใบหน้า หากใช้ครีมลดรอยสิว สามารถช่วยลดรอยสิวให้จางลงทำให้ใบหน้ากลับมามีผิวที่กระจ่างใส เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
รอยสิวเกิดจากอะไร
เมื่อพบว่ามีสิวขึ้นบนใบหน้า พยายามไม่บีบสิวหัวดำ สิวหัวขาวและสิวอื่น ๆ ด้วยนิ้วหรือเครื่องมืออื่น ๆ เมื่อคุณบีบสิวแรง ๆ คุณได้ทำลายเส้นเลือดฝอย ต่อมต่าง ๆ และเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ สิว
ซึ่งมีผลทำให้อาการของสิวแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นได้ รอยแผลเป็นเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังชั้นนอกสุด หรือ ชั้นหนังกำพร้าได้รับความเสียหายและส่งผลไปถึงชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป เมื่อผิวไม่สามารถซ่อมแซมตนเองให้กลับมาเป็นเหมือนเคยได้
ผิวจะสร้างเนื้อเยื่อซึ่งมีส่วนประกอบของเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาแทนที่บริเวณบาดแผล เส้นใยเหล่านี้ช่วยเติมเต็มแผลจากภายในสู่ภายนอกและช่วยรักษาบริเวณผิวหนังที่ถูกทำลายได้
เนื้อเยื่อที่เข้ามาเติมเต็มแผลนี้อาจจะรักษาบาดแผลแต่ทิ้งรอยที่สามารถมองเห็นได้ กลายเป็นรอยแผลเป็นสิว หรือรอยสิวนั่นเอง
ชนิดรอยแผลที่เกิดจากสิว
-จุดด่างดำ หรือก็คือพวกรอยดำรอยแดงที่เป็นผลตามมาจากการเป็นสิว รักษาได้ด้วยการทาครีมลดรอยแผลเป็นต่าง ๆ แต่อาจจะใช้เวลาสักหน่อย
-แผลเป็นแบบหลุม (Atrophic Scars) ใครที่ชอบกดหรือบีบสิวบ่อย ๆ ระวังไว้เลยเพราะอาจจะเกิดแผลเป็นชนิดนี้ตามมาได้ การรักษาสำหรับแผลเป็นแบบนี้ก็คือการเลเซอร์หรือทา Retinoid A
-แผลเป็นแบบนูน (Hypertrophic Scars): มีลักษณะหนาและยกตัวนูนขึ้น
-ก็เห็นด้วยกับการผ่าตัด กรณีนี้คงไม่น่ากังวลสักเท่าไร
วิธีเลือกซื้อครีมลดรอยสิว
ก่อนการเลือกซื้อครีมลดรอยสิว ควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อว่าสินค้าว่ามีสรรพคุณอย่างไร ได้มาตรฐานผ่านการตรวจสอบ อย. หรือไม่ ส่วนประกอบมีอะไรบ้าง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายหรือไม่
สามารถตรวจสอบการแพ้แบบง่าย ๆ เลยคือ เอาเนื้อครีมมาป้ายที่ข้อพับหรือหลังใบหูก็ได้ จากนั้นก็รอดูว่าจะมีอาการอะไรผิดปกติขึ้นมาไหม หรือไม่เกิดการแพ้ แสบ คัน ระคายเคืองก็ถือว่าใช้ได้
ครีมลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี พร้อมขั้นตอนวิธีการใช้
1. Hiruscar Postacne
Hiruscar Postacne เจลลดรอยสิวสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ 100 % เนื้อเจลเป็นสีใส ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว มีสารสกัดจาก Allium cepa ซึ่งจะช่วยลดรอยด่างดำและรอยอักเสบแดง ซ่อมแซมรอยแผลเป็นหลุมลึกจากสิวให้ดูตื้นขึ้น
ทั้งยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า ซึ่งทำให้สิวเกิดใหม่น้อยลงนั่นเอง วิธีใช้ ใช้แต้มวันละ 2-3 ครั้ง เช้า – ก่อนนอน ควรใช้หลังจากบำรุงผิวและใช้ก่อนการแต่งหน้าเป็นประจำจะช่วยให้ลดรอยแผลเป็น ถ้าใช้ต่อเนื่องจะมีประสิทธิภาพดีขึ้น
2. Smooth E Cream
Smooth E Cream เนื้อครีมเข้มข้น มีวิตามินอี เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว รักษาและฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น รอยสิว แผลเป็นสิว แผลเป็น รอยแผลเป็น จุดด่างดำ ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ช่วยให้รอบแผลเป็นอ่อนนุ่มลงได้
และมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของสิว ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ค้นคว้าวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผ่านการทดสอบความปลอดภัยจากสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อลดและดูแลปัญหาต่าง ๆ ของผิวหน้าและผิวกาย
วิธีใช้งาน ทาสมูทอีครีม บริเวณรอยแผลเป็น ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือบริเวณที่มีปัญหาวันละ 2-3 ครั้งหรือบ่อยเท่าที่ต้องการ ช่วยลดริ้วรอย แผลเป็น จุดด่างดำ รอยสิว แผลเป็นสิว ผิวลายหลังคลอดได้เป็นอย่างดี
3. Retin-A Cream
Retin-A Cream เป็นครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ จุดประสงค์หลัก ๆ เลยคือช่วยลดการเกิดสิว โดยเฉพาะสิวอุดตัน แต่ก็สามารถลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว รอยบีบสิวหรือจุดด่างดำต่าง ๆ ได้เช่นกัน
และสำหรับคนที่หน้ามัน Retin-A Cream ยังช่วยลดความมันบนผิวหน้าได้อีกด้วย Retin-A Cream จะมี 2 ขนาดความเข้มข้นให้เลือก ได้แก่ 0.025 % และ 0.05 % สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้แนะนำว่าให้ใช้ 0.025 % ก่อนจะดีกว่า
เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ วิธีใช้ ทาวันละครั้งก่อนนอน โดยทาบาง ๆ ทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณที่เป็นสิว เพียงเบา ๆ โดยใช้ผ้า สำลี หรือนิ้วมือที่สะอาด ไม่ควรใช้มากไปเพราะไม่มีผลเพิ่มการรักษา
4. Hirudoid Mild Cream
Hirudoid Mild Cream ครีมช่วยรักษาสิว ที่เน้นลบรอยแผลเป็นที่อยู่บนใบหน้า ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงไปอย่างทำให้เห็นได้ชัด ตัวเนื้อครีมอ่อนและบาง ซึ่งไม่มีน้ำหอม และไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ
สามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิว และสามารถช่วยเพิ่มความสามารถของการอุ้มน้ำในชั้นของผิวได้ดี วิธีใช้ ทาบริเวณแผลเป็น แผลสิว วันละ 2 ครั้ง เช้า ก่อนนอน พร้อมกับการถูนวดเบา ๆ
5. Mederma Intense Gel
Mederma Intense Gel ครีมลดรอยแผลสิวที่มีสารสกัดจากหัวหอม (Allium cepa) ซึ่งจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอเรียบเนียน ลดการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสมานแผล และยังมีสารที่ช่วยลดการระคายเคืองของผิว
ทำให้ผิวชุ่มชื่นและแผลอ่อนนุ่มลง บอกเลยว่าตัวนี้ดีงามจริง ๆ ซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก แผลเป็นใหม่ ๆ จางเร็วมาก วิธีการใช้ ทาบาง ๆ วันละ 1 ครั้ง ในตอนเช้าหรือตอนเย็น โดยทาติดต่อกันนาน 2-3 เดือน
6. Med Maker Vitamin E Cream
Med Maker Vitamin E Cream มีส่วนผสมของ Vitamin E เข้มข้นถึง 5.5% ซึ่ง Vitamin E มีส่วนช่วยให้ผิวของเราขาวใสขึ้น ทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมโทรมให้กลับเป็นปกติ
ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นต่าง ๆ หรือรอยดำ รอยแดงจากสิว และนอกจาก Vitamin E แล้วยังมีส่วนผสมของ Jojoba Oil และ D-Panthenol ที่ช่วยเสริมความดีงามของ Vitamin E ให้มากขึ้น
และเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มเนียนให้กับผิว ใครที่หน้าแห้งมาก ๆ จะหยิบมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นก็ได้ วิธีใช้ ทาบริเวณรอยแผลเป็น ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือบริเวณที่มีปัญหาวันละ 2-3 ครั้งหรือบ่อยเท่าที่ต้องการ
7. Scargel
Scargel เป็นเจลรักษาแผลเป็นที่มีส่วนประกอบหลัก คือ สารสกัดดราก้อนบลัด ซึ่งมีสรรพคุณมากมาย ช่วยสมานแผล สมานผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซม และเติมเต็มชั้นผิว ให้แผลลึกแลดูตื้นขึ้น
ช่วยรักษาผิวพรรณ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ช่วยลดรอยแดง และ รอยดำ วิธีใช้ แต้มเจลบาง ๆลงบนผิวหน้าและผิวกายในบริเวณที่มีปัญหาแผลเป็นและนวดเบา ๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง
8. Scar Mate
Scar Mate ภายในตัวเซรั่มมีสารสกัดสำคัญอย่าง allium cepa ที่สกัดจากหัวหอมเข้มข้นมากถึง 15% ร่วมกับ papain enzyme ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน หลัก ๆ จะช่วยเรื่องของ ลดรอยแดง-ดำ จากสิว
ลดรอยแผลเป็นทุกชนิด ช่วยให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย สารสกัดล้วนแล้วแต่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก ใช้แล้วปลอดภัย ไม่กัดหน้าหรือทำให้หน้าบาง
เนื้อเซรั่มมีสีใส เกลี่ยง่าย แถมซึมไว ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วไม่ทิ้งเป็นคราบ วิธีใช้ ทาบำรุงเป็นประจำ เช้า-เย็น เน้นจุดที่ต้องการบำรุงจะเห็นผลได้เร็วขึ้น แนะนำไม่ควรใช้ทา ขณะเป็นสิวอักเสบหรือแผลที่เปิด
9. Smooth E Scar Serum
Smooth E Scar Serum เซรั่มลดรอยแผลเป็น ประกอบไปด้วย สารสกัดบริสุทธิ์จากธรรมชาติและเทคโนโลยีเปปไทด์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยลดรอยแผลเป็นในลักษณะต่าง ๆ สามารถใช้ได้ทั้งแผลเป็นที่เกิดจากสิว จุดด่างดำที่เกิดจากสิว
หลุมสิวแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและแผลผ่าตัด ทำให้รอยแผลนุ่มนวล เรียบเนียนขึ้นแลดูจางลง วิธีใช้ ทาบริเวณรอยแผลเป็นจากสิว นวดเบา ๆ จนกระทั่งเจล ซึมเข้าสู่ผิว วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
10. Clear Skin Lab
Clear Skin Lab ครีมรักษาแผลเป็นสูตรเข้มข้น ใช้รักษาผิวที่มีปัญหาจากรอยแผลเป็นต่าง ๆ ป้องกันรอยบาดแผลนูนแดง ด้วยสารสำคัญ MPS ผสานกับ Allium Cepa หรือสารสกัดจากหัวหอมเข้มข้นถึง 34 เท่า ผนวกกับสาร 4 ชนิด
จึงช่วยยับยั้งการก่อตัวของเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ทำให้ผิวเกิดรอยแผลเป็น สมานผิวอย่างธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวหนัง บรรเทาอาการคัน เพื่อป้องกันมิให้แผลเป็นนูนขยายมากขึ้น วิธีใช้
สำหรับแผลเป็นใหม่ เมื่อแน่ใจว่าแผลปิดหายสนิทดีแล้ว ทาบาง ๆ นวดเบา ๆ ใช้วันละ 4-5 ครั้ง สำหรับแผลเป็นเก่า ให้ทาบาง ๆ สามารถนวดแรงได้ ใช้วันละ 4-5 ครั้ง
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ ครีมลดรอยสิว เป็นตัวช่วยให้สาว ๆ ได้เป็นอย่างดี ช่วยลดรอยแผล รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว ควรใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
หากมีรอยที่เกิดจากสิวมากจนเกินไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังทัน เพื่อป้องกันผลเสียที่ตามมาได้อย่างทันท่วงที ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ได้