แตงโม ผลไม้ที่นิยมปลูกกันทั่วทุกภาค

หน้าร้อนใกล้เข้ามาแล้ว อากาศเริ่มร้อนอบอ้าว เหมาะที่จะหาเครื่องดื่มเย็น ๆ หรืออาหารคลายร้อนที่รับประทานแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น ที่สำคัญต้องไม่ทำให้อ้วนด้วยนะ เพราะหน้าร้อนแบบนี้เหมาะกับการใส่บีกินี่อวดรูปร่างที่สุด แตงโม คำนี้จะโผล่ขึ้นมาในหัวทันทียิ่งแช่เย็นอีกละก็ ว้าว!! 

แตงโม เป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันมาก มีอยู่ทั่วทุกภาคและปลูกได้ทุกจังหวัด จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับแคนตาลูป ฟักทอง แตงกวา มีอยู่ 3 สายพันธุ์หลัก ๆ นั่นก็คือ พันธุ์ธรรมดาทั่วไป เมล็ดมีขนาดเล็ก รสหวาน เช่น แตงโมจินตหรา แตงโมตอร์ปิโด แตงโมกินรี แตงโมน้ำผึ้ง สายพันธุ์ต่อมาก็คือ พันธุ์ไร้เมล็ด เป็นพันธุ์ผสมผลิตเพื่อส่งออก และพันธุ์กินเมล็ด ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่วที่เรียกกันว่า เม็ดกวยจี๋ 

แตงโม เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมาก จึงมีคุณสมบัติเย็น เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ แตงโม ข้อควรระวัง รับประทานแล้วหวานชื่นใจ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น และมีสารที่สำคัญคือ Citrulline (ซิทรูไลน์) ซึ่งจะพบที่เปลือกมากกว่าส่วนของเนื้อ ดังนั้นการรับประทานแบบที่มีเปลือกขาว ๆ ติดมาด้วยจะเป็นประโยชน์ดีกว่าที่จะกินแต่เนื้อสด ๆ

 แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาสุขภาพไม่เหมาะที่รับประทานแตงโม เช่น กระเพาะ ม้ามไม่แข็งแรง กระเพาะลำไส้อักเสบ หญิงหลังคลอด หลังป่วยหนัก หรือผู้ที่มีอาการปัสสาวะมากและบ่อย มีอาการท้องร่วงง่าย 

ประโยชน์ของแตงโม

1.เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำเหมาะกับผู้ต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก

2.ป้องกันการสะสมของไขมัน ลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ภายในเลือด

3.ไลโคปีน (Lycopene) ในแตงโม เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ

4.ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง เพราะประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด พอกหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น แก้ปัญหาแห้งกร้าน ช่วยดูดซับความมัน ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และลดอาการแสบแดง

5.ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยแก้ไขสภาวะของหัวใจที่ผิดปกติโดยสารแคโรทีนอย โพแทสเซียม และวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีระดับคลอเรสเตอรอลที่ปกติ

6.แตงโมมีสารออกฤทธิ์กระตุ้นให้หลอดเลือดคลายตัว ช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น

7.วิตามินเอในผลแตงโมมีส่วนช่วยบำรุงสายตา

8.ช่วยล้างพิษจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป

9.คลายร้อน ลดความร้อนในร่างกาย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกาย เหมาะแก่การทำเป็นน้ำผลไม้ดื่มคลายร้อนที่สุด

10.เปลือกหรือผลอ่อนใช้ทำเป็นอาหาร เช่น แกงส้ม 

11.แปรรูปเป็น แยมแตงโม เมล็ดแตงโม หรือทำเป็นสบู่แตงโม ไวน์

12.แตงโมช่วยป้องกันหวัด บรรเทาและป้องกันโรคหอบหืดโดยวิตามินซีในแตงโมจะช่วยต่อสู้และเสริมสร้างให้ปอดมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย 

13.ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปวดกระเพาะปัสสาวะ

14.ช่วยควบคุมความดันโลหิตและมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตลงได้ รักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้

15.ช่วยบำรุงร่างกาย สมองและยังรักษาโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์จากโคลีนที่อยู่ในแตงโม ปอด หัวใจ 

16.ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน บรรเทารักษาแผลในช่องปาก

17.แก้โรคตับ ดีซ่าน แก้อาการเมาเหล้า

18.ช่วยย่อยอาหาร ช่วยระบายท้อง ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ 

19.รากมีน้ำยาง ใช้กินแก้อาการตกเลือดหลังการแท้ง 

20.ใช้ทารักษาแผล ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ

21.ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ เนื่องจากเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ เนื่องจากมีน้ำประกอบอยู่มากถึงประมาณ 90%

22.แตงโมมีกรดอะมิโนชื่อว่าซิทรูลีน (Citrulline) ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและเพิ่มสมรรถภาพในการออกกำลังกาย กระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ควบคุมระบบการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้ออีกด้วย

23.เบต้า-คริปโตแซนทีน (Beta-Cryptoxanthin) ในแตงโม ช่วยป้องกันข้อต่ออักเสบ ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับข้อต่อ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ลดลงได้ 

24.ลดอาการไข้โดยใช้ใบชงเป็นยาลดไข้ แก้คอแห้ง ป้องกันการเจ็บคอ

25.แตงโมมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยบำรุงระบบประสาทภายในร่างกาย ลดการเกิดเหน็บชาและการเกิดตะคริว แค่กินแตงโมสด ๆ วันละ 10 ชิ้นหรือดื่มน้ำแตงโมสด 1 แก้วทุกวันก็ช่วยบำรุงระบบประสาทได้แล้ว

26.ช่วยแก้โรคเบาหวาน กรดอะมิโน อาร์จินิน (Arginine) ในเนื้อแตงโม เป็นสารที่ช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่โดยการเพิ่มการเผาผลาญไขมัน และกลูโคส

ข้อควรระวังในการบริโภคแตงโม

แตงโม มีสารอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมาก แก็ต้องระรับปทานแต่พอดี หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น

1.ปัญหาในระบบย่อยอาหาร เช่น ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องเสีย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ เช่น น้ำตาลฟรุกโตส

2.น้ำแตงโมอุดมไปด้วยน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาก

3.เกิดภูมิแพ้ได้ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการ เช่น ลมพิษ ปากบวม หน้าบวม หายใจลำบาก

4.อาหารไม่ย่อย เพราะน้ำจากแตงโมจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง ทำให้ย่อยอาหารไม่ดี

5.สารพิษตกค้างบริเวณเปลือก เนื่องจากแตงโมเป็นพืชที่ถูกรบกวนได้ง่าย ชาวสวนจึงนิยมฉีดยาฆ่าแมลง เพื่อป้องกัน ดังนั้น ควรล้างเปลือกแตงโม ให้สะอาดก่อนรับประทานเพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง

ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์หน้าร้อน เพราะแตงโม เย็น ๆ หวาน ฉ่ำน้ำ ไม่ว่าจะทานสด ๆ หรือนำไปปั่นก็อร่อย เย็นชื่นใจ ดับกระหาย คลายร้อน และยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง บำรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยลดความตึงเครียดได้ เพราะสารโพแทสเซียมในแตงโม จะช่วยควบคุมความดันโลหิตทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์ดี เย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ยังมีสารไลโคปินในแตงโม healthdoo.today ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากกว่ามะเขือเทศถึง 1.5 เท่า แตงโม ข้อควรระวังจึงช่วยยับยั้งริ้วรอยชะลอความแก่