สิวหัวดำ การดูแล รักษาและป้องกัน

สิวหัวดำ 

ปัญหาเรื่องสิวไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็จะทำให้ผู้นั้นขาดความมั่นใจ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน และ อาจต้องใช้เวลานานในการรักษา ซึ่งหากบางคนทนไม่ไหวก็จะบีบ แกะ หรือ เกาผิว

จนทำให้สิวเกิดการอักเสบ และ มีรอยแผลเป็น และ วันนี้เราขอนำเสนอเรื่อง “สิวหัวดำ การดูแลรักษาสิวหัวดำ และ การป้องกันสิวหัวดำ” ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับสิวหัวดำก่อนค่ะ ว่าคืออะไร และ เกิดขึ้นได้อย่างไร

สิวหัวดำ คือ

สิวหัวดำ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีดำขึ้นบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากไขมัน แบคทีเรีย และ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสะสมอยู่ในรูขุมขน และ อาจขึ้นบนผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณหลัง หน้าอก แขน หัวไหล่ และ ลำคอ

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นสิวหัวดำ

-การรับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ลิเทียม หรือ แอนโดรเจน

-มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง

-มีการระคายเคืองของรูขุมขน ที่เกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ไม่หลุดออก

-ร่างกายผลิตไขมันหล่อเลี้ยงผิวหนังมากเกินไป

กำจัดสิวหัวดำ อย่างไรให้ได้ผล

สิวหัวดำ เราสามารถรักษาได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปพบแพทย์ เช่น การดูแลผิวหน้า ให้สะอาดเพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน หรือ การใช้ยารักษาสิวที่ช่วยลดการอุดตันของสิว และ หากมีสิวหัวดำเกิดขึ้นซ้ำ ๆ อาจจะต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิวด้วยวิธีอื่น

การดูแลรักษา และ ป้องกันสิวหัวดำ

1. ดูแลตัวเอง

เลือกใช้เครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิว หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมอาจเป็นตัวการทำให้เกิดสิวได้ พยายามเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้า เช่น การถูหน้า หรือ นวดหน้าแรง ๆ การรักษาความสะอาดบนใบหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ

ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น และ ที่สำคัญของการล้างหน้า คือ ควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะเครื่องสำอางเป็นบ่อเกิดของสิ่งอุดตันรูขุมขน เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้ว

การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอก็สำคัญ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวัน งดอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีมลพิษมาก ๆ

2. ควบคุมความมันบนใบหน้า

ควรลดน้ำมันบนใบหน้า อย่าให้อะไรมีอะไรมาอุดตันรูขุมขน หากผิวของคุณไม่แพ้ AHA และ BHA แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2 ตัวนี้ เป็นประจำเพื่อช่วยให้การป้องกันการเกิดสิวได้

3. ใช้เบนซอยส์เพอร์ออกไซด์ หรือ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide – BP) หรือ ยาบีพี

ซึ่งมีอยู่หลายยี่ห้อ เช่น Benzac AC, Panoxyl (Alcohol based) ACNEXYL (เนื้อเจล) เพียงแค่ทาให้ทั่วหน้าก่อนการล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น หรือ ก่อนนอน โดยทาทิ้งไว้ 10 นาที

แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ สำหรับผู้เริ่มใช้ควรใช้ขนาดความเข้มข้นต่ำก่อน เมื่อผิวเริ่มชินกับยาแล้ว จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาการทาให้นานขึ้นไขมันที่อุดตันก็จะถูกละลาย

4. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids)

หรือ ยาละลายสิวอุดตันเป็นสารสกัดจากวิตามินเอ มีสรรพคุณช่วยละลายไขมันที่อุดตันให้อ่อนตัว และ หลุดออกมาได้ง่าย แต่จะมีผลข้างเดียว คือ ทำให้ผิวแห้งแดง และ ลอกการใช้ยากลุ่มนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง

5. หลีกเลี่ยงแสงแดด

เนื่องจากผลิตภัณฑ์รักษาสิวส่วนใหญ่จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแสง ดังนั้นในระหว่างใช้ยาทารักษาสิวหัวดำ เราจำเป็นต้องทาครีมกันแดด และ อย่าลืมล้างครีมกันแดดออกให้สะอาด หากล้างไม่สะอาดก็จะเกิดการอุดตันบนใบหน้าของเราได้

6. การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling)

การผลัดเซลล์ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดไกลโคลิก และ BHA เช่น กรดซาลิไซลิก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดเซลล์ผิวเก่าทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น และ ทำให้รูขุมขนเล็กลง

7. หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน และ การกดสิว

การมาสก์หน้า และ การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนอาจช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ แต่ก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งจะส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และ ทำให้เกิดการอุดตัน

ทำให้เป็นสิวหัวดำมากกว่าเดิม และ การใช้เครื่องมือกดสิวเพื่อกำจัดสิวหัวดำ โดยขาดความชำนาญอาจทำให้ผิวหน้าเป็นแผล หากต้องการกดสิวควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าทำการกดให้เพื่อกำจัดสิวอย่างถูกวิธี

8. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน

ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่ระบุคำว่า “Non comedogenic” ซึ่งเป็นสินค้าไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวหัวดำ

9. อบไอน้ำผิวหน้า

ซึ่งไอน้ำจะช่วยเปิดรูขุมขนช่วยทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในรูขุมขนหลุดออกมาจึงทำให้ผิวหน้าสะอาดและกระจ่างใส

10. การทำไอออนโต หรือ โฟโน

เป็นวิธีที่ใช้เครื่องมือรักษาสิวหัวดำ ร่วมกับการใช้เจลวิตามินเอ โดยเครื่องมือนี้จะช่วยผลักวิตามินให้ซึมลึกเข้าสู่ผิว ซึ่งวิตามินจะช่วยละลายสิวหัวดำ การทำในช่วงแรก ๆ นั้น จะรู้สึกได้ถึงผิวหน้าแห้ง และ ลอกเป็นขุย

จึงทำให้สิวหัวดำหลุดออกมาได้ โดยง่าย และในระหว่างที่ทำการรักษาสิวหัวดำ สิวใหม่ก็อาจจะเห่อขึ้นมาอีก แต่ไม่ต้องกังวล เนื่องจากจะหายได้เอง และ หากเราทำเป็นประจำหน้าจะใสขึ้น

ซึ่งขอแนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง วิธีนี้จะเห็นผลได้เร็วกว่า การทายาในกลุ่มวิตามินเอ โดยที่เครื่องไอออนโตจะให้ผลในการผลักวิตามินได้ดีกว่าเครื่องโฟโน แต่ข้อเสียของเครื่องไอออนโต คือ เวลาทำจะรู้สึกช็อตที่ใบหน้า ส่วนเครื่องโฟโนทำแล้วจะรู้สึกสบาย

11.การรักษาสิวหัวดำ

การใช้เลเซอร์เพื่อลดการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า และ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยไม่ก่อนให้เกิดความเสียหาย ต่อผิวหนังชั้นนอก

12. การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี

วิธีนี้จะเป็นการผลัดผิวหน้าในระดับของผิวหนังกำพร้า โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษที่มีพื้นผิวหยาบขัดผิว เพื่อลอกเอกหนังกำพร้าชั้นบนสุดออก ซึ่งจะช่วยชจัดสิ่งอุดตันของรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของสิวหัวดำ

13. สูตรมะเขือเทศ

เนื่องจากในมะเขือเทศจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน และ ทำให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยการนำมะเขือเทศมาฝานแล้วถูให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออก สิวหัวดำก็จะยุบตัวลง และ มีหัวให้เราพอกำจัดมันออกมาได้

14. สูตรหอมแดง

ซึ่งใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยการนำหอมแดงมาหั่น ขยี้หอมแดง แล้วนำมาทาหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก หลังทำเสร็จสิวหัวดำก็จะโผล่ขึ้นมาและยังทำให้รอยดำจากการแกะสิวจางลงอีกด้วย

ความเชื่อเกี่ยวกับสิวหัวดำที่อาจไม่เป็นความจริง

– น้ำมันมิเนอรัล ทำให้เกิดสิวหัวดำ

น้ำมันมิเนอรัลเป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน จึงไม่ทำให้เกิดสิว ซึ่งหลายคนมีความเชื่อว่าน้ำมันมิเนอรัลเป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการสกัดปิโตรเลียม ซึ่งมีส่วนทำให้รูขุมขนอุดตัน จนทำให้เกิดสิวหัวดำได้

– สิ่งสกปรกทำให้สิวอุดตันมีสีดำ

ซึ่งสิวหัวดำจะมีลักษณะคล้ายสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ซึ่งความจริงแล้วสิวหัวดำ จะมีลักษณะสีดำ เนื่องจากสิ่งอุดตันในรูขุมขน เช่น แบคทีเรีย ฝุ่นผง และน้ำมัน ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศทำให้สิวหัวดำมีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่มีสีดำ

สิวหัวดำหากเกิดขึ้นกับใครก็ดูจะเป็นปัญหากวนใจที่ทำให้ผู้ที่เป็นเกิดความกังวลใจ แต่สิวหัวดำจะไม่เป็นปัญหากวนใจอีกต่อไปหากเรารู้จักวิธีรักษาและป้องกันอย่างถูกวิธี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก…
1. https://www.pobpad.com/สิวหัวดำ-กับเคล็ดลับกำจ
2. https://www.honestdocs.co/the-blackheads
3. https://medthai.com/สิวอุดตัน/