กำจัดขนถาวร มีวิธี และขั้นตอนอะไรบ้าง
Table of Contents
กำจัดขนถาวร
ขนเป็นสิ่งที่ติดตัวเราทุกคนมาตั้งแต่เกิด และ เป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องการจะใส่เสื้อผ้าอวดผิวสวย แต่ก็ไม่มั่นใจเพราะขนสามารถขึ้นได้ทั่วบริเวณของร่างกาย จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับของฮอร์โมนและกรรมพันธุ์
และ ไม่ใช่แต่สาว ๆ เท่านั้นที่มีปัญหาในคุณผู้ชายเอง เรื่องขนก็เป็นปัญหากวนใจไม่ใช่น้อยไม่ว่าจะเป็นหนวด เครา หรือ รักแก้ และ จุดซ่อนเร้น สำหรับผู้หญิง ขนแขน ขนขา ก็เป็นปัญหากวนใจที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ
เพราะหลายคนมองว่าการมีขนตามแขน และ ขา เยอะจะทำให้ดูไม่เป็นระเบียบ และ เมื่อขนเป็นตัวปัญหา จึงต้องหาทางกำจัดออกไป
การกำจัดขน สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
การกำจัดขนแบบชั่วคราว
เป็นวิธีที่หลายคนนิยมกำจัดขนด้วยวิธีนี้ เช่น การถอน การโกน การแวกซ์ หรือ การใช้น้ำยากำจัดขน และ การใช้ลูกกลิ้งไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ด้วยตนเอง ราคาถูก ง่ายและสะดวก
แต่จะมีข้อด้อย คือ ต้องทำทุกครั้งที่ขนขึ้น และ ทำต่อเนื่องตลอด ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาคือ เกิดปัญหาขนคุดกลายเป็นตุ่มนูน เหมือนหนังไก่ ผิวหนังมีรูดำไม่เรียบ
การกำจัดขนแบบถาวร
ซึ่งวิธีนี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขนจะค่อย ๆ ลดลงจากการรักษาหลาย ๆ ครั้ง และไม่ต้องกังวล เรื่องปัญหาขนคุด
ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง “การกำจัดขนแบบถาวร” เพราะการกำจัดขนถาวรจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และ สามารถกำจัดขนได้ถาวรจริง ๆ แต่ก่อนที่เราจะลงลึกถึงรายละเอียดของการกำจัดขนถาวร เรามาทำความเข้าใจเรื่องขนให้มากขึ้นก่อนการกำจัดขนถาวรก่อนดีกว่าค่ะ
วงจรชีวิตของขนแบ่งเป็น 3 ระยะ
1. วงจรเส้นขนระยะเติบโต (Anagen Phase)
ปกติแล้วเส้นขนแต่ละเส้นจะมีอายุประมาณ 3 ปี ซึ่งเป็นเส้นขนที่มีเลือดมาเลี้ยง โดยจะมีรากที่พร้อมจะให้กำเนิดขนใหม่
2. วงจรเส้นขนในระยะเสื่อมสภาพ (Catagen Phase)
ซึ่งเป็นระยะที่เส้นขนหยุดการเจริญเติบโต เข้าสู่ช่วงโรยรา เตรียมพร้อมที่จะร่วงมีระยะเวลาประมาณ
2 สัปดาห์
3. วงจรเส้นขนในระยะฟักตัว (Telogen Phase)
เป็นระยะที่ขนหลุดร่วงจากต่อมขน หรือ โคนขน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 – 3 เดือนขึ้นอยู่กับความหนาของเส้นขนในแต่ละบุคคล
นอกจากวงจรของเส้นขนแล้ว สิ่งที่นักกำจัดขนควรทราบคือ ลักษณะชั้นของเส้นขน เพื่อให้สามารถกำจัดขนได้อย่างถูกวิธี โดยแบ่งลักษณะชั้นของเส้นขนเป็น 3 ชั้น ดังนี้
1. Outer Cuticle เป็นเส้นขนชั้นนอกที่ประกอบไปด้วยเซลล์ขนรูปร่างแบนชั้นของเส้นขนนี้ ถือเป็นชั้นที่ป้องกันสิ่งสกปรก และ มลภาวะที่จะมาทำลายเส้นขนของเรา
ซึ่งเส้นขนในชั้นนี้วางตัวซ้อนกันหนาประมาณ 5 – 10 ชั้นที่ประกอบด้วยเคราติน ที่เป็นตัวช่วยในการทำให้ผมหหรือขนมีความแข็งแรง
2. Hair Cortex ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด ที่ประกอบไปด้วยเซลล์ขนแบนและยาว ความยึดหยุ่นของผมและขนขึ้นอยู่กับเส้นใย โปรตีนในชั้นนี้
ภายในชั้นนี้ยังมีเม็ดสี Melanin ที่ถูกสร้างจาก Melanocyte ซึ่งเราจะเป็นสีผมของแต่ละคนตามธรรมชาติที่มีความแตกต่างได้จากชิ้นนี้
3. Hair Medulla ชั้นนี้จะมีความสำคัญน้อยกว่า 2 ชั้นข้างต้น
เมื่อเราได้รู้จักวงจรชีวิตขน และ ลักษณะของเส้นขน จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของการกำจัดขนถาวรได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
กำจัดขนแบบถาวรที่นิยมใช้และได้ผลดีมากมี 2 วิธีคือ
การจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื่นวิทยุ และ การใช้เลเซอร์
การใช้เลเซอร์
โดยให้แสงเลเซอร์ไปจับกับเม็ดสี (pigment) ของขนในระยะที่ขนกำลังเจริญเติบโตยาวออกมาเรื่อย ๆ การใช้เลเซอร์สามารถกำจัดขนได้ 60 – 80% จากการทำซื้อหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งหมายถึงสามารถกำจัดขนได้บางส่วน แต่ไม่หมดไปถาวร แต่ขนที่เหลือจะเล็ก และ บางลง วิธีนี้มีข้อดี คือ ไม่เจ็บ ซึ่งก่อนทำแพทย์จะใช้ครีมทาให้ชาก่อน
การกำจัดขนแบบถาวรด้วยเลเซอร์จะต้องเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีคลื่นความยาวที่เหมาะสม เพื่อที่เลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีที่มีอยู่ในชั้นรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวรสามารถกำจัดขนแบบถาวรได้ผลชัดในช่วงที่ขนกำลังเติดโต
หรือในระยะ Anagen ซึ่งรากขนและเม็ดสีจะถูกพลังงานแสงเลเซอร์ทำลาย จึงทำให้เส้นขนบางลง สีจางลง และ ยังอ่อนตัวขึ้นกว่าเดิม และ จะค่อย ๆ ขึ้นน้อยลงจนกระทั่งหมดไปในที่สุด การทำเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวรในครั้งแรกนั้น
จะต้องเว้นระยะห่างประมาณ 1เดือน เพื่อให้ขนที่ถูกกำจัดในครั้งแรกเกิดขึ้นมาใหม่ หากเราทำต่อเนื่องทุก ๆ เดือนมากกว่า 3 ครั้ง ขนในบางจุดอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย ส่วนในคุณผู้ชายที่ต้องการกำจัดขนขา หนวด เครา อาจจะต้องใช้เวลาในการกำจัดขนนานกว่าจุดอื่น เพราะลักษณะเส้นขนมีความแตกต่างกัน
การจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื่นวิทยุ
วิธีนี้สามารถกำจัดขนถาวรได้ 100% และ กำจัดขนได้ถุงรากขนเลยที่เดียว ขนที่ถูกกำจัดออกไปแล้วจะไม่ขึ้นมาใหม่อีก จัดได้ว่าวิธีกำจัดขนแบบถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้าได้ผลดีมาก ๆ ซึ่งมีขั้นตอนในการทำคือ แพทย์จะใช้เข็มเล็ก ๆ สอดเข้าไปที่รูขุมขน
และ ใช้ปฏิกิริยาทางเคมี หรือความร้อน หรือ อาจจะใช้ทั้ง 2 วิธีรวมเข้าด้วยกัน เพื่อทำลายรากขนโดยเฉพาะก่อนที่จะทำต้องประคบเย็นเพื่อทำให้ชา หรือ บางบริเวณอาจต้องทาหรือฉีดยาชา การกำจัดขนแบบถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้าต้องทำบ่อยครั้ง ซึ่งจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณขนของแต่ละคน ที่มีมากน้อยไม่เท่ากัน
การเตรียมตัวก่อนกำจัดขนถาวร
การกำจัดขนแบบถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้าให้หลีกเลี่ยงการถอนขนหรือแวกซ์ขนในบริเวณที่ต้องการกำจัดขนแบบถาวร ประมาณ 1 เดือน เพื่อที่จะให้แพทย์เห็นขนที่อยู่ในรากชัดเจน ทำให้จี้ได้ง่ายและจี้ได้หมด
ส่วนการกำจัดขนแบบถาวรด้วยเลเซอร์สามารถทำได้ในขณะที่ขนกำลังเจริญเติบโตออกมาจะดีที่สุด เนื่องจากแสงเลเซอร์จะไปจับเม็ดสี (pigment) ของขนได้ในระยะที่ขนกำลังเจริญเติบโต หากเป็นยะยะอื่นจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
ระยะเวลาที่ใช้ในการกำจัดขน
เวลาที่ใช้ในการทำจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขน เพราะแต่ละตำแหน่งจะมีความหนาแน่นของตนไม่เท่ากัน เช่น บริเวณรักแร้ หน้าแข้ง จะมีความหนาแน่นของขนประมาณ 65 เส้นต่อตารางเซนติเมตร ในขณะที่ใบหน้ามีความหนาแน่นประมาณ 500 เส้นต่อตารางเซนติเมตร
สำหรับเวลาที่ใช้ในการทำก็จะขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกใช้ เช่น หากเราเลือกใช้วิธีกำจัดขนแบบถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื่นวิทยุ บริเวณรักแร้ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในครั้งแรก หากทำครั้งต่อไปก็จะเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าวิธีเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวรจะใช้เวลาในการทำเพียง 10 นาทีเท่านั้น
แต่ต้องใช้ครีมทาให้ชาก่อนลงมือทำประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าเราเลือกใช้เลเซอร์กำจัดขนแบบถาวร สามารถทำได้หมดในครั้งเดียว แต่ถ้าใช้การกำจัดขนแบบถาวรแบบจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื่นวิทยุ อาจจะต้องแบ่งทำ 2 – 3 ครั้ง ซึ่งหากทำครั้งเดียวอาจเกิดอาการบวมขึ้นมาได้
การดูแลหลังกำจัดขนถาวร
การกำจัดขนแบบถาวร ด้วยการจี้ไฟฟ้า หรือ จี้ด้วยคลื่นวิทยุ เพื่อลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 3 วันแรก หลังทำวันแรกให้ใช้น้ำแข็ง หรือถุงเย็นประคบบริเวณที่ทำบ่อย ๆ
และ เพื่อป้องกันการอักเสบควรงดการว่ายน้ำในสระน้ำ งดการใช้น้ำหอม ลูกกลิ้ง เครื่องสำอาง หินขัด หรือ ฟองน้ำขัดผิว ในบริเวณที่กำจัดขนประมาณ 7 วัน
การกำจัดขนแบบถาวรด้วยเลเซอร์ อาจมีอาการแสบร้อนคล้ายการไหม้แดดเล็กน้อย แต่จะหายได้ภายใน 1 – 2 ชั่วโมง หากมีรอยแดงจะหายได้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงแสงแดดประมาณ 3 วัน โดยเฉพาะการกำจัดหนวดเครา แขน เพราะอาจทำให้เกิดรอยดำตามมาได้
อาการที่พบได้หลังกำจัดขนแบบถาวร
การทำเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวรหลังทำหากมีตุ่มน้ำในบริเวณที่ทำแนะนำให้ใช้ยาเจลทาบ่อย ๆ ทุกหนึ่งชั่วโมง ตุ่มน้ำจะยุบเองไม่ควรแกะ หรือ ลอกหนังออก ซึ่งอาการนี้จะพบน้อยมาก
การกำจัดขนแบบถาวรด้วยการจี้ไฟฟ้า หรือ การจี้ด้วยคลื่นวิทยุ หลังทำอาจมีรอยแดงคล้ายจุดยุงกัดในบริเวณที่จี้กำจัดขน แต่รอยนี้จะหายได้เองภายใน 7 – 10 วัน
การกำจัดขนแบบถาวรนอกจากจะได้ผิวที่เกลี้ยงเกลา และดูเนียนตาแล้ว ยังมีข้อดีอีกคือ บริเวณที่ทำอาจมีผลพลอยได้ตามมาด้วย เช่น รักแร้ ตุ่มนูนที่เกิดจากการถอนขนจะค่อย ๆ ลดลง เพราะไม่มีการกระตุ้นด้วยการถอนขนบริเวณนั้นอีก
และ การที่ไม่มีขน เหงื่อ และ ต่อมกลิ่นบางส่วนก็จะถูกทำลาย การกำจัดขนจะทำให้กลิ่นตัวลดลง และ รอยคล้ำใต้วงแขนก็จะลดลงด้วย หากใครที่กำจัดขนแบบถาวรไปแล้วแต่ยังมีเรื่องรักแร้ดำจากการใช้ลูกกลิ้งดับกลิ่น
สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขได้ เพราะปัจจุบันนี้มีเลเซอร์รักแร้ขาว ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ทำได้ง่ายและได้ผลดีมากไม่เจ็บและไม่เป็นแผล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก..
1. https://th.yanhee.net/หัตถการ/กำจัดขนถาวร/
2. https://www.sinotaclinic.com/10/