HealthDoo.Today

เว็บไซต์ความรู้ด้านสุขภาพ และความงาม

ตกขาว สิ่งที่ผู้หญิงพบเจออยู่ตลอดจนเป็นเรื่องปกติ

ตกขาว

สาว ๆ ทุกคนต้องรู้จัก ตกขาว และต้องเผชิญกับปัญหานี้ทุกเดือน เป็นสิ่งที่ผู้หญิงพบเจออยู่ตลอดจนเป็นเรื่องปกติ การที่มีมูกใสหรือสีขาวขุ่นเล็ดรอดออกมาทางช่องคลอด ซึ่งได้สร้างความรำคาญและระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้นให้เกือบทุกตรั้ง ตกขาว วิธีแก้ มักเกิดขึ้นในช่วงไข่ตกระหว่างกลางของรอบเดือนแล้วหายไป และกลับมาอีกครั้งในช่วงใกล้มีประจำเดือน 

ตกขาว หรือระดูขาว เป็นของเหลวที่ขับออกจากช่องคลอด เป็นอาการของผู้หญิงที่สามารถเกิดได้ตามปกติ โดย ตกขาว ที่ปกติมีสีใสหรือขาวขุ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น และไม่คัน 

อาการผิดปกติของตกขาว

อาการที่บ่งบอกว่า ตกขาว ผิดปกติ คือ  ตกขาวเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีอื่น เช่น สีเขียว สีเหลือง สีขาวเทา หรือสีแดงเนื่องจากมีเลือดปน ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคล้ายกุ้งเน่า หรือมีกลิ่นคาว มีลักษณะเป็นฟอง คันบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศ แสบที่อวัยวะเพศ ซึ่งสีของตกขาวอาจบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังเกิดสิ่งผิดปกติบางอย่าง

1.ตกขาวสีขาว หรือสีครีมเหมือนสีเปลือกไข่ ในช่วงวันที่ 6-14 ของรอบเดือน จะเป็นช่วงที่เลือดประจำเดือนหยุดไหลแล้ว หลังจากนั้นจะเริ่มมี ตกขาว เล็กน้อยลักษณะเป็นสีขาวหรือมีสีเหลืองนวล ๆ และอาจมีลักษณะเหนียวได้ ถ้ามีกลิ่นและลักษณะคล้ายนมบูด แสบ คันบริเวณช่องคลอด มักพบในผู้ใช้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหรือมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน

2.ตกขาวสีเขียวอ่อนหรือสีเหลืองปนเขียว มีฟอง กลิ่นเปรี้ยว ปริมาณมาก คันบริเวณช่องคลอด และปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หากตกขาวมีสีเขียวแต่ไม่มีกลิ่นและไม่มีอาการแสบคัน อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดอาการคัน และมีกลิ่นคาว แสดงถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์

3.ตกขาวสีชมพูหรือสีชมพูจางๆ อาจเป็นสัญญาณของการจะมีรอบประจำเดือน หรือเกิดจากการลอกหลุดของเยื่อบุโพรงมดลูก 

4.ตกขาวสีเทาเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดการอักเสบที่ช่องคลอดและปากมดลูก ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการคัน มีกลิ่นแรง หรืออาจมีรอยแดงบริเวณปากช่องคลอด

5.ตกขาวสีน้ำตาลหรือ ตกขาว แบบมีเลือดปน ตกขาวสีนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากประจำเดือนที่ตกค้าง มักมีปริมาณไม่มากนัก ไม่มีกลิ่นเหม็น เกิดจากการลอกตัวของมดลูก มักพบหลังจากมีประจำเดือนไม่มีอันตรายอะไร

ตกขาว สีน้ำตาลช่วงหลังคลอด จะเรียกว่าน้ำคาวปลา ขับออกมาจากแผลภายในมดลูก ลักษณะปกติเป็นเลือดปนน้ำเหลือง กลิ่นไม่เหม็นเน่า มี 3 ระยะ คือ

        📍 ระยะ 1-3 วันแรกหลังคลอด น้ำคาวปลาจะมีลักษณะสีแดงคล้ำและข้น

        📍 ระยะ 4-14 วันหลังคลอด สีน้ำคาวปลาจะค่อยๆ จางลงเป็นสีน้ำตาล คล้ายสีน้ำล้างเนื้อ

        📍 หลังจากนั้น น้ำคาวปลาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว หากมีอาการคัน เป็นฟอง กลิ่นเหม็น ปัสสาวะแสบขัด ระคายเคือง อวัยวะเพศบวมแดง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรืออาจเกิดจากแบคทีเรียใน ช่องคลอดไม่สมดุลกัน ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป 

6.ตกขาวเยอะผิดปกติ เกิดจากการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ก็จะต้องให้มีการให้ยารักษาคู่นอนร่วมด้วย 

สาเหตุของตกขาวสีน้ำตาล

โดยทั่วไป ตกขาว สีน้ำตาลหลังมีประจำเดือน มักไม่เป็นอันตราย แต่หากเป็นหลายครั้ง และ/หรือมีอาการผิดปกติ อย่างอื่นร่วม เช่น คันในช่องคลอด มีกลิ่นเหม็น ปวดท้องร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ มีเลือดออก กะปริดกะปรอย แนะนำ ให้ไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย การมีตกขาวสีน้ำตาลเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

1.เลือดออกปน มากับตกขาว เกิดจากผนังมดลูกลอกตัวช้า สามารถพบได้หลังช่วงที่มีประจำเดือน 

2.ติดเชื้อ เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย

3.เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะสืบพันธ์ หลังมีเพศสัมพันธ์ เกิดตกขาวสีน้ำตาล หากหลังมีเพศสัมพันธ์แล้ว มีตกขาวสีน้ำตาลออกมา นั่นอาจเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น ช่องคลอดมีบาดแผลจนเลือดอก

4.การทำงานผิดปกติ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายทั้งก่อนและหลังมีประจำเดือน

5.บาดแผลที่บริเวณปากมดลูก ช่องคลอดอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ มีติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อที่ปากมดลูก

6.การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (หากมีอาการฉี่แสบขัดร่วมด้วย)

ภาวะแทรกซ้อนของการตกขาวสีน้ำตาล

1.เกิดอาการคัน บวม เจ็บ บริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอด

2.มีเลือดไหลออกจากช่องคลอด โดยไม่ใช่เลือดประจำเดือน

3.ปวดท้อง และเจ็บหรือแสบขัดในขณะปัสสาวะ

4.เจ็บช่องคลอดในขณะมีเพศสัมพันธ์

6.หากตั้งครรภ์ อาจจะมีการเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือโรคติดต่อ ซึ่งสามารถเผยแพร่สู่ลูกในการคลอดได้

7.ตกขาวที่มีมาจากการติดเชื้อแล้วไม่ได้ทำการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะการมีบุตรยาก 

8.ตกขาวที่เกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในช่องคลอด อาจนำไปสู่อาการช็อกแบบเฉียบพลันจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่รีบรักษาอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

9.ภายในช่องคลอดแห้งผิดปกติ อาจทำให้ติดเชื้อราในช่องคลอดได้ ปกติภายในช่องคลอดจะมีความชุ่มชื้นหรือมีสารหล่อลื่น เพื่อลดการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่นของช่องคลอด 

10.เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังใกล้ช่องคลอด เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีลักษณะเป็นสิวเป็นอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์

การรักษาตกขาวสีน้ำตาล

1.ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอาการ ตกขาว สีน้ําตาล ช่วยให้รักษาได้อย่างตรงจุด หากเกิดจากสาเหตุอื่น ที่ไม่ใช่ผนังมดลูกลอกตัวช้าจะได้รักษาอย่างทันท่วงที

2.หากพบว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากเชื้อรา แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อรา หากสาเหตุมาจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ควรให้คู่ของคุณเข้ารับการรักษาร่วมด้วย

3.รับประทานสมุนไพรเพื่อช่วยในการบำรุงมดลูก เช่น ยาสตรี หรือว่านชักมดลูก เป็นต้น ทั้งนี้การรับประทานยาสมุนไพรควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

4.หากมีรอบเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง เพราะเชื้อโรคอาจเข้าสู่ช่องคลอดได้

5.หากใช้ผ้าอนามัยสำหรับตกขาว ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะเกิดความอับชื้นได้

6.หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด เพราะจะทำให้ความสมดุลภายในช่องคลอดเปลี่ยนไป และอาจติดเชื้อได้ง่ายแค่ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศภายนอกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้สบู่ที่ไม่ทำให้เกิดการแสบหรือระคายเคืองก็เพียงพอ

7.สวมใส่กางเกงในที่ไม่หนาหรือรัดแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการอับชื้นได้

8.ควรใช้ถุงยางอนามัย ขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นได้

9.ไม่ควรทานยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน หากไม่จำเป็น

10.หากเกิดอาการผิดปกติใด ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

11.ตรวจภายในเป็นประจำทุกปี

อย่างไรก็ตาม การ ตกขาว ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม  หากมี ตกขาว มากผิดปกติ เป็นซ้ำ ๆ บ่อย ๆ อาจส่งผลให้ปีกมดลูกเกิดการอักเสบ ท่อนำไข่ตัน เกิดภาวะมีบุตรยาก เพิ่มความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงขึ้น ดังนั้นผู้หญิงควรรักษาความสะอาด ช่องคลอดและอวัยวะเพศอยู่เสมอ โดยการล้างช่องคลอดด้วยน้ำและสบู่อ่อน เช่น สบู่เด็ก ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีชนิดต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคืองได้ และสวมใส่กางเกงชั้นในที่สะอาด ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาและไม่อับชื้น 

การหมั่นสังเกต ตกขาว วิธีแก้ และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ สังเกตสีของ ตกขาว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่ช่วยเตือนให้รู้ถึงความผิดปกติภายในที่มองไม่เห็น เช่น ตกขาวสีน้ำตาล ตกขาวสีเหลือง จะทำให้รู้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น จะได้เข้ารับการรักษา healthdoo ได้ทัน