ขาหนีบดำแก้ไขอย่างไรให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นอีก

ขาหนีบดำ

เรือนร่างที่ปราศจากริ้วรอยด่างดำต่างเป็นที่ปรารถนาของทุกคน โดยเฉพาะหญิงสาวที่ชื่นชอบการแต่แต่งกายที่ต้องโชว์เนื้อหนังบ้าง ซึ่งปัญหารอยด่างดำที่สร้างความหนักใจและความกังวลใจมักจะหนี้ไม่พ้น รอยดำที่บริเวณขาหนีบ

ถึงแม้ว่าบริเวณขาหนีบจะเป็นจุดลับ ที่มักจะไม่เปิดเผยให้ใครได้เห็นมากนัก แต่การที่ขาหนีบมีรอยด่างดำก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และขาหนีบดำเกิดจากการมีน้ำหนักตัวมาก การออกกำลังกาย หรือการใช้ยาบางชนิด

หลายคนจึงพยายามใช้ครีมหรือแม้แต่บริโภคอาหารเสริมที่ช่วยปรับสีผิว เพราะเชื่อว่าการทาครีมและการทานอาหารเสริมสามารถทำให้รอยคล้ำบริเวณดังกล่าวจางลงได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ขาหนีบดำสามารถรักษาและป้องกันให้หายขาดได้

สาเหตุที่ทำให้ขาหนีบดำ

1.การเสียดสี

บริเวณขาหนีบเป็นบริเวณที่ผิวหนังมีการเสียดสีกันอยู่เกือบตลอดเวลา โดยเมื่อผิวหนังบริเวณขาหนีบมีการเสียดสีบ่อยมากขึ้นผิวหนังที่บริเวณดังกล่าวจะมีการอักเสบและแดง เมื่อเกิดการอักเสบแล้วร่างกายจึงต้องทำการสร้างผิวหนังที่บริเวณดังกล่าวให้มีความหนามากขึ้น

เพื่อลดการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการเสียดสี จึงทำให้ผิวหนังที่บริเวณขาหนีบมีสีที่เข้มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสีดำในที่สุด ซึ่งการเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบที่ส่งผลให้เกิดเป็นสีดำเกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัย คือ

-การเสียดสีของผิวหนังกับผิวหนัง

ผู้ที่มีน้ำหนักมากเมื่อเกิดการเคลื่อนไหว ร่างกายเช่น การเดิน การวิ่ง การลุกหรือการขยับตัว บริเวณขาหนีบจะเกิดการเสียดสีมากขึ้นเนื่องจากความแนบชิดของเนื้อที่เพิ่มมากขึ้นตามน้ำหนักตัวจึงทำให้ขาหนีบของเราดำได้

-การเสียดสีของผิวหนังกับเสื้อผ้า

ผู้ที่ชื่นชอบการใส่กางเกงที่รัดแน่นแนบชิดกับเนื้อหรือกางเกงในหรือกางเกงขาสั้นมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกางเกงที่ใส่มีเนื้อผ้าที่หยาบ เช่น กางเกงยีนส์ กางเกงผ้าเนื้อหนา จะส่งผลให้เนื้อผ้าทำการเสียดสีกับผิวหนังที่บริเวณขาหนีบ จนส่งผลให้ขาหนีบเกิดการอักเสบและเป็นรอยดำเกิดขึ้นได้

2.โรคเชื้อราที่ขาหนีบ

โรคเชื้อราที่เกิดขึ้นบริเวณขาหนีบมักจะเกิดจากการติดเชื้อที่อยู่ในกลุ่ม Dermatophyte เช่น โรคสังคัง ซึ่งโรคนี้จะเกิดขึ้นบริเวณขาหนีบที่มีความอับชื้น เมื่อเกิดการติดเชื้อแล้วจะทำให้เกิดการอักเสบ

และเป็นผื่นแดงและคัน เมื่อเกิดอาการคันคนเหล่านี้ก็ชอบเกาเมื่อเกาแล้วก็จะเกิดอาการอักเสบมากขึ้น พอรักษาอาการอักเสบจนหายก็จะกลายเป็นดำที่บริเวณขาหนีบได้

3.โรคผิวหนังช้าง

โรคผิวหนังช้าง คือ โรคที่ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำหรือดำ มีความหนามากกว่าผิวหนังบริเวณอื่น ซึ่งผิวหนังที่เป็นโรคผิวหนังช่างจะมีลักษณะที่หยาบคล้ายกับผิวหนังของช้าง

ซึ่งจะเกิดในผู้ที่มีปริมาณอินซูลินในร่างกายสูงผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด ยากระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ยารักษาโรคไทรอยด์ เป็นต้น และโรคผิวหนังช้างพบมากในบริเวณต้นคอที่มีรอยพับ ขาหนีบ เป็นต้น

4.การตั้งครรภ์

ขาหนีบดำเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงที่การตั้งครรภ์ เนื่องจากในขณะที่มีการตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างเฉียบพลัน

ทำให้ร่างกายมีการผลิตเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังมีสีเข้มขึ้นทั่วร่างกายโดยเฉพาะส่วนที่มีการเสียดสีมาก เช่น ใต้รักแร้ ขาหนีบ ต้นคอ เป็นต้น

ขาหนีบดำแก้ไขอย่างไรให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นอีก

อาการขาหนีบดำ อาจจะมาจากพันธุกรรมสีผิว ซึ่งไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ แต่ถ้าเกิดจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่นการเสียดสีมากจนเกินไปของขาทั้งสองข้างก็สามารถทำให้ดำได้

โดยเฉพาะผู้หญิงรูปร่างอ้วนที่มักจะเกิดการเสียดสีที่บริเวณนั้นบ่อยครั้งด้วยเช่นกัน และความอับชื้นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกางเกงชั้นใน ผ้าอนามัย ก็สามารถทำให้ขาหนีบมีความคล้ำขึ้นได้ง่าย

และวันนี้ทางเรามีวิธีแก้ไขปัญหาขาหนีบดำให้หายขาดโดยไม่กลับมาเป็นอีกมาแนะนำให้คุณที่มีปัญหาขาหนีบดำได้พิจารณาและนำไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาขาหนีบดำของตนเองได้ พร้อมแล้วเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

1.ลดน้ำหนัก

สาเหตุที่ทำให้ขาหนีบของสาว ๆ ดำก็เกิดจากการที่น้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ เมื่อน้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นขาของคุณก็จะใหญ่ขึ้นพอขาใหญ่ขึ้นก็จะเกิดการเสียดสีระหว่างขาหนีบได้มากขึ้น

และหากเกิดการเสียดสีบ่อย ๆ ก็จะทำให้ขาหนีบดำเพราะฉะนั้นถ้าอยากมีขาหนีบที่ขาวสวยก็ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องลดน้ำหนักอย่างจริงจังแล้วค่ะ เมื่อคุณลดน้ำหนักได้แล้วขาหนีบดำก็จะไม่กลับมากวนใจคุณให้คุณเสียความมั่นใจเมื่อต้องใส่กางเกงขาสั้นหรือบิกินี่ค่ะ

2.ไม่ใส่กางเกงในเวลานอน

เพราะกางเกงในเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาหนีบดำได้ เพราะทุกวันเราต้องใส่กางเกงในทั้งวันและแน่นอนว่ากางเกงในที่เราใส่ต้องเสียดสีกับขาหนีบเราทั้งวัน เมื่อถึงเวลานอนเราก็ควรผ่อนคลายให้ตรงจุดนั้น เอาจริง ๆ เวลานอนควรใส่กางเกงหลวม ๆ

ไม่ต้องใส่กางเกงในแต่ถ้าจำเป็นจริงก็ควรใส่กางเกงในที่ตัดเย็บจากผ้าที่ไม่ระคายเคืองผิว สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อลดการเสียดสีของขาหนีบได้และจะไม่ทำให้ขาหนีบเราดำจนขาดความมั่นใจค่ะ

3.ทาครีมบำรุง เพื่อกู้ผิวดำ ให้กลับมาขาวใส

ในปัจจุบันมีครีมทากันขาหนีบดำออกมาจำหน่ายมากมายคุณควรลองหาครีมดี ๆ มาใช้กันเพราะครีมช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับขาหนีบของคุณได้ และยังช่วยลดการเสียดสีของขาหนีบได้เป็นอย่างดี

และการทาครีมช่วยให้รอยดำที่เกิดบริเวณขาหนีบค่อย ๆ จางหาย ครีมทาผิวไม่ใช่แค่ทาผิวได้เท่านั้นแต่สามารถทาขาหนีบดำได้อีกด้วยถ้าไม่อยากให้ขาหนีบดำก็ควรบำรุงและดูแลให้ดีอยู่เสมอนะคะ

4.ขัดผิว ด้วยสูตรลับ จากธรรมชาติ

การขัดผิว หรือการสครับผิวนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี ซึ่งคุณสามารถใช้ฟองน้ำหรือใยบวมขัดบริเวณขาหนีบแบบเบา ๆ ในขณะอาบน้ำหรือจะเลือกเป็นเกลือขัดผิวก็ได้

แต่วันนี้ทางเราสูตรลับขาหนีบดำจากธรรมชาติมาแนะนำให้คุณโดยคุณสามารถทำดองได้ที่บ้านพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ

-ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้สรรพคุณของมันคือช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ให้ขาวใส วิธีใช้ก็ง่าย ๆ เพียงคุณนำว่านหางจระเข้มาปอกเอาแต่ข้างในของว่านแล้วนำมาทาบริเวณขาหนีบแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดทำแบบนี้ทุกวัน วันละครั้งพอก็จะทำให้ขาหนีบของคุณหายดำได้ค่ะ

-มะนาว

มะนาวสรรพคุณมีฤทธิ์ที่ช่วยในการผลัดเซลล์

วิธีใช้นั้นให้คุณใช้เปลือกมะนาวถูบริเวณขาหนีบเบา ๆ และทิ้งไว้ประมาณ2-3 นาทีแล้วล้างออกและวิธีนี้ต้องใช้ครีมบำรุงผิวควบคู่กันด้วยนะคะเพื่อผลลัพธ์ที่ดีค่ะ

-มะขามเปียก+น้ำผึ้ง

สูตรนี้เป็นสูตรต้นตำรับความงามโดยเฉพาะ

วิธีใช้ นำมะขามเปียกผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่นมาทาและถูบริเวณขาหนีบเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาทีและล้างออกเท่านี้ก็ช่วยให้ขาหนีบหายดำได้ค่ะ

-โยเกิร์ต+เบคกิ้งโซดา

วิธีใช้ ใช้โยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะผสมกับเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะแล้วผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ แล้วนำไปพอกบริเวณขาหนีบแล้วขัดเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกวิธีนี้สามารถช่วยให้ขาหนีบของคุณหายดำได้ค่ะ

-น้ำผึ้ง + น้ำมะนาว + น้ำตาล

วิธีทำ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ มะนาวครึ่งลูก น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

วิธีใช้ ใช้ทาบริเวณขาหนีบและทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ขาหนีบของคุณหายได้ค่ะ

5.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อคุณทำตามทุกขั้นตอนของการรักษาขาหนีบดำด้วยตนเองแล้วแต่ผลลัพธ์ที่ได้คือไม่หายและยิ่งเป็นมากขึ้นคุณควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาบางทีอาจจะไม่ใช่ขาหนีบดำธรรมดาแต่อาจเป็นโรคที่เราไม่สามารถรู้ได้

เพราะฉะนั้นก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูนะคะไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะคงไม่มีใครอยากเห็นขาหนีบดำไปตลอดเพราะคุณหมอท่านสามารถวินิจฉัยและรักษาให้เราหายได้ค่ะ

บทสรุป

ขาหนีบดำสามารถแก้ไขและรักษาให้หายขาดได้เพียงเราทำตามคำแนะนำที่เราได้แนะนำในข้างต้นหากรักษาแล้วยังไม่หายก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาขั้นต่อไปค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..
1. https://amprohealth.com/beauty/cause-and-prevention-of-dull-groin/
2. https://www.sanook.com/women/129005/