HealthDoo.Today

เว็บไซต์ความรู้ด้านสุขภาพ และความงาม

ครีมทาหน้าที่ดี ควรมีอะไรบ้างและเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม

ครีมทาหน้าที่ดี

ครีมทาหน้า

ผู้ที่มีผิวหน้าเรียบเนียน ไร้สิว ไร้ฝ้า ไร้จุดด่างดำ มักจะเป็นผู้ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น ผิวหน้าจึงเป็นปราการด่านแรกที่คนเราจะพบเจอกันไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่น หรือวัยหนุ่มสาว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ครีมทาหน้า หรือ ครีมบำรุง จึงเป็นเครื่องสำอางที่เราต้องใช้ทุกวัน

ครีมทาหน้า

ครีมทาหน้า หรือ ครีมบำรุงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกภายนอก ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน สามารถปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย ร่องตื้น และ ยังช่วยปรับสภาพผิวก่อนลงเครื่องสำอาง ครีมบำรุงจึงเป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรใช้และ ควรมีติดตัวไว้

 

ส่วนผสมของครีมบำรุง ควรมีอะไรบ้าง

ในครีมบำรุงอาจจะมีสารบางชนิดที่แตกต่างกัน แต่ โดยทั่วไปมักจะประกอบไปด้วยส่วนผสมต่อไปนี้

– วิตามิน กรดเรทิโนอิก (Retinoic Acid) เป็นวิตามินเอ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน ครีมบำรุงบางยี่ห้ออาจมีวิตามินซี หรือ วิตามินอี เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเชื่อว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่จะส่งผลดีต่อผิว

– สารเคลือบร่องผิวหนังชั้นบน เป็นสารที่ช่วยให้ผิวเรียบลื่น มีคุณสมบัติช่วยเคลือบร่องผิวหนังชั้นบน

– สารดูดความชื้น มีคุณสมบัติดูดความชุ่มชื้นจากอากาศ และ ชั้นหนังแท้มาไว้ที่ชั้นหนังกำพร้า หากหนังกำพร้าไม่สามารถกักเก็บน้ำที่ดูดซึมมาได้ จำเป็นต้องมีสารป้องกันการระเหยของน้ำช่วยโอบอุ้มน้ำไว้ที่หนังกำพร้า

– เมนทอล สารชนิดนี้จะให้ความรู้สึกเย็นหลังทา มักเป็นส่วนประกอบในครีมบำรุงที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการคัน เมื่อทาแล้วจะช่วยลดอาการคันได้

– น้ำ ผิวแห้งกร้าน เกิดจากการขาดน้ำ การใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำปริมาณมาก จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าในการเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ซึ่งการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำในปริมาณที่มากจะช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งได้ดี

– สารป้องกันการระเหยของน้ำ ปิโตรเลียม เซตทิลแอลกอฮอล์ (Cetyl Alcohol) ลาโนลิน (Lanolin) พาราฟิน (Paraffin) เลซิทิน (Lecithin) กรดสเตียริก (Stearic Acid) น้ำมันจากแร่ธาตุ (Mineral Oil) และ ซิลิโคน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้น้ำในครีมบำรุงระเหยช้าลง

รูปแบบครีมทาหน้า หรือ ครีมบำรุง

มีหลายรูปแบบ ให้เลือก เพื่อผลลัพธ์ต่อการดูแลที่เฉพาะขึ้น ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีรูปแบบที่เป็นครีมอย่างเดียว เรามาดูกันเลยค่ะ

1. ชนิดโลชั่น (Lotion) เนื้อโลชั่นจะซึมลงสู่ผิวได้เร็วกว่าแบบครีม เนื่องจากเนื้อโลชั่นมีลักษณะเหลวกว่าแบบครีม จะเหมาะกับผู้ที่มีผิวธรรมดา และ ยังมีสูตรที่ไม่ผสมน้ำมันที่ผลิตออกมาสำหรับผู้ที่มีผิวมันโดยเฉพาะ

2. ชนิดครีมข้น (Cream) เนื้อครีมจะช่วยลดความหยาบกร้าน และ ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวได้มาก เนื่องจากส่วนประกอบของครีมจะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบทำให้ครีมยึดติดกัน เหนียวข้น ซึ่งเมื่อเราทาลงบนผิวหน้า เนื้อครีมอาจซึมลงสู่ผิวได้ช้า จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง

3. ชนิดเจล (Gel) จะเหมาะกับผู้ทามีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากมีเนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง กับผิว และ ด้วยส่วนประกอบหลักคือน้ำก็จะเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน

4.ชนิดอิมัลชัน (Emulsion) มีส่วนผสมของน้ำมัน เนื้อจะข้นกว่าโลชั่น แต่จะไม่เหนียวเหมือนครีม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดา และ ผิวแห้ง

5. ชนิดซีรั่ม (Serum) ซีรั่มจะซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว และ บำรุงลึกกว่าชนิดอื่น ลักษณะของซีรั่มจะเป็นน้ำ หรือน้ำมัน ซึ่งเราต้องเลือกใช้ตามลักษณะของผิวเพื่อการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ

รูปแบบครีมทาหน้า

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้า เราจะต้องทำความรู้จักกับผิวของเราเสียก่อน เพราะผิวแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน การใช้ครีมบำรุงผิวหน้าก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของผิว

เรามาทำความรู้จักกับลักษณะของผิวกันดีกว่าค่ะ ผิวของคนเราจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้ค่ะ

1. ผิวมัน เป็นผิวที่มีรูขุมขนกว้างการขับน้ำมันจากผิวจึงมากเป็นพิเศษ ผิวจะไม่เรียบเนียน เป็นผิวที่เกิดสิวได้ง่าย และ เมื่อเป็นสิวแล้วก็จะตามมาด้วยรอยแดง รอยดำจากสิว

ต้องเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเลย (Oil free) แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำให้มาก (Water based) ข้อดีของผู้ที่มีผิวมัน คือ จะมีริ้วรอยตามวัยช้ากว่าผู้ที่มีผิวแห้ง

2. ผิวธรรมดา ผู้ที่มีผิวธรรมดา ถือได้ว่าโชคดีสุด ๆ เนื่องจากเป็นผิวที่ดูแลง่าย รูขุมขนจะละเอียด ไม่มีปัญหาเรื่องหน้ามันเยิ้ม หรือ แห้งจนเกิดริ้วรอย ผิวธรรมดาจะเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าได้ง่าย

แค่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ทาบำรุงในตอนเช้าและก่อนนอน และก่อนออกจากบ้านใช้ครีมกันแดดเพียงเท่านี้คนที่มีผิวธรรมดาก็จะมีผิวหน้าที่สดใสแล้ว

3. ผิวผสม ผิวประเภทนี้มักพบได้บ่อยในคนไทย เป็นผิวที่เกิดสิว และ รอยแดง รอยดำจากสิวได้ง่าย ในบริเวณที่มีน้ำมันมาก และ เกิดริ้วรอยได้ง่ายในส่วนที่ผิวแห้งเป็นผิวที่ดูแลยาก

สิ่งที่ผู้ที่มีผิวผสมต้องระวังคือการเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีความมันทาบริเวณทีโซน หากเราทาบริเวณที่มีความมันก็จะทำให้เกิดสิว และ บริเวณโหนกแก้มก็ต้องระวังเรื่องความแห้งกร้าน ผิวไม่ยืดหยุ่น เนื่องจากจะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย

4. ผิวแห้ง จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิว แต่ผิวประเภทนี้จะสูญเสียน้ำทางผิวได้ง่าย ซึ่งทำให้ผิวเป็นขุยได้ง่าย ทำให้เกิดริ้วรอย เพราะผิวขาดความยืดหยุ่น ผู้ที่มีผิวแห้งไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และ ไม่ควรล้างหน้าบ่อย

เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ที่ผิว และ ควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Alcohol) เพระจะยิ่งทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอย

5. ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวชนิดนี้จะหาครีมบำรุงยาก เนื่องจากใช้อะไรก็จะแพ้ อาการที่พบได้คือ เป็นผื่นคัน เป็นสิว หรืออาจมีผิวแดงเห่อทั้งหน้า ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือ ครีมบำรุงที่ใช้กับเด็ก เนื่องจากจะมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า

 

ส่วนผสมในครีมบำรุงที่อาจก่อให้เกิดการแพ้

เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ อาจมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายที่ไม่เพียงแต่ทำให้หน้าพัง หน้าเยิน หรือเกิดอาการแพ้เท่านั้น แต่ยังอาจทำลายสุขภาพในระยะยาว หรืออาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้

เรามาดูกันค่ะว่า ส่วนผสมในเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่เสี่ยงต่อการแพ้ และ อาจทำให้เกิดอันตรายสำหรับบางคนมีอะไรบ้าง

1. เรตินอย (Retinol)

เรตินอยมีคุณสมบัติทำให้ผิวกระจ่างใส พบมากในผลิตภัณฑ์รักษาสิว และ ครีมบำรุงหลายชนิด แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ ทำให้ผิวบาง และ ไวต่อแดด ซึ่งหากใช้ช่วงเวลากลางวันจะทำให้ผิวไหม้ได้

ซึ่งเรตินอยที่พบมักเป็นส่วนผสมของครีมสำหรับใช้กลางคืนเป็นส่วนมาก หญิงตั้งครรภ์ ควรหยุดใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของเรตินอย เพราะอาจเข้าไปทำลาย DNA

2. พาราเบน (Paraben)

พาราเบน คือ สารกันบูด ซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตั้งแต่แชมพู มาส์กหน้า และ ครีมบำรุงผิว เพื่อป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา และ โรคอื่น ๆ ไม่ให้เติบโตในผลิตภัณฑ์เหล่านี้

พาราเบนจะไปเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งเต้านม และ ทำให้ฮอร์โมนขาดความสมดุล ทำให้มีบุตรยาก ซึ่งเมื่อคุณมองหาบนฉลากแล้วไม่พบคำว่าพาราเบนก็อย่าเพิ่มมั่นใจ เพราะพาราเบนอาจมาในชื่อ เพนโนซีอานอล  phenoxythanol

3. วิตามินอี (Vitamin E)

วิตามินอี อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน เกิดรอยแดงได้ง่าย ก่อนใช้ครีม บำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินอีควรทำการทดสอบการแพ้ก่อน

4. เชียบัตเตอร์ (Shea Butter)

หากมีผิวมันการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมจากเชียบัตเตอร์จะทำให้รู้สึกเหนอะหนะไม่สบายผิว และ อุดตันรูขุมขน ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน

5. ตะกั่ว (Lead)

ส่วนประกอบของตะกั่วบนฉลากครีมบำรุงอาจไม่ระบุไว้ เพราะอาจอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยสำหรับการใช้ แต่ถึงอย่างไรก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะตะกั่วเป็นสารก่อนมะเร็ง

เพื่อให้ผิวหน้าของเราได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และ มีประสิทธิภาพสูงสุด เราควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าของเราให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อที่เราจะได้มีผิวหน้าที่สวนใสอ่อนกว่าวัยให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

การใช้ครีมบำรุงผิวค่อนข้างปลอดภัยหากใช้อย่างถูกวิธี แต่หากเกิดผลข้างเคียง เช่น มีผื่นแดง รูขุมขนอุดตัน หรือ รูขุมขนอักเสบอาจทำให้เกิดสิวตามมา หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดใช้ครีมแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..
1. http://www.pikool.com/ครีมบำรุงผิวหน้า/
2. https://www.pobpad.com/ครีมบำรุง-เลือกอย่างไรใ
3. https://www.trueplookpanya.com/blog/content/66428/-blo-wombeaski-wombea-wom-