เซรั่มหน้าใสคืออะไร เมื่อไหร่จึงควรใช้ และดูอย่างไรในการเลือกซื้อ
Table of Contents
เซรั่มหน้าใส
เซรั่มหน้าใสอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่สาว ๆ หลาย ๆ คนขาดไม่ได้เพราะถึงแม้ผิวจะโทรม หน้าจะพังแค่ไหน รวมถึงปัญหาความหมองคล้ำ
จุดด่างดำ ริ้วรอยต่าง ๆ ใช้เมคอัพปกปิดยิ่งอุดตันเกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก แค่มีเซรั่มช่วยให้หน้าใสบำรุงผิวดี ๆ สักตัว รับรองผิวหน้าของคุณจะกลับมาขาวใส สวยเด้งเหมือนเดิม
เซรั่มหน้าใสคือ
เซรั่มช่วยให้หน้าใส เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่เข้มข้น มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ มีกรดและวิตามินที่ช่วยในการฟื้นบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
ส่วนผสมที่มีอยู่ในเซรั่มจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่ ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าผลิตภัณฑ์ประเภทครีม จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึกและรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยม
ประโยชน์ของการใช้เซรั่มหน้าใสมีอะไรบ้าง
-เซรั่มจะมีคุณสมบัติที่ช่วยจัดการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผิวในชั้นที่ลึกกว่า สามารถซึมซับผิวได้ดี สามารถทำให้หน้าขาวใส ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น กระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสช่วยให้ผิวหน้ามีความขาว กระจ่างใส บอกลาความโทรมและหมองคล้ำไปได้เลย ผิวมีความขาวเนียนและดูอิ่มเอม
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ ได้เป็นอย่างดี
-ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านอันเนื่องมาจากการใช้สารเคมีมากหรือการทำเลเซอร์ต่าง ๆให้กลับมามีน้ำมีนวลขึ้นมาอีกครั้ง
-เซรั่มซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นในช่วยแก้ไขปัญญาผิวจากด้านใน ในขณะที่มอยส์เจอไรเซอร์แบบครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแต่ได้แค่ผิวชั้นนอก
-อาการแดงการอักเสบจากการเป็นสิว เซรั่มจะช่วยดูแลด้วยการบรรเทาอาการต่างๆลง
-เซรั่มหน้าใสมีเนื้อสัมผัสเบาเพื่อให้ซึมซาบและให้ส่วนผสมออกฤทธิ์แก่ผิวได้เต็มที่
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสจะเน้นการฟื้นบำรุงและแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดได้โดยตรง
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสมีสารบำรุงผิวต่อหยดที่เข้มข้นมาก จึงช่วยแก้ไขปัญหาผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสจะซึมเร็วและลงลึกจึงทำให้มีความสามารถในการบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก
-เซรั่มมีความเบาบาง ทำให้ไม่ก่อให้เกิดสิวไม่เหนียวเหนอะเหนอะ ไม่เน้นการเคลือบผิว
-สามารถใช้เซรั่มร่วมกับผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ริ้วรอยหมองคล้ำจากสิว ฝ้า กระ แลดูจางลง
-เซรั่มช่วยให้หนาใสช่วยสมาน บรรเทาการระคายเคืองผิวจากการโดนแสงแดดและความร้อน
-เซรั่มช่วยให้หน้าใสช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยกักเก็บน้ำในผิวไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ
-เซรั่มช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับแลดูผิวอ่อนวัย
เมื่อไหร่จึงจะควรใช้เซรั่มช่วยให้หน้าใส
-วัยรุ่นเป็นวัยที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นสิวได้ง่าย ดังนั้นเพื่อบรรเทาอาการ ผิวแห้ง จากการใช้ทรีทเม้นท์ที่บำรุงผิว ควรเลือกใช้เซรั่มช่วยให้หน้าใสทดแทนครีมจะดีกว่า
-สามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองหลังการโกนหนวดได้
-ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปเพื่อลดความแห้งกร้านและป้องกันการเกิดริ้วรอย
-ผิวที่ร่วงโรยเพื่อพื้นฟูความเปล่งประกายและเติมเต็มผิว
-ผิวที่มีอาการแดงหรือโรซาเซีย (rosacea)เพื่อลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการคัน
-ผิวที่โดนแดด ทำให้ผิวหน้าหยาบกร้านใช้เพื่อ เพื่อปกป้องผิวจากการสัมผัสกับแสงแดดซ้ำ ๆ หรือระยะยาว
-ผิวที่ถูกทำร้ายจากสภาพแวดล้อมจากอากาศเย็น ลม แสงแดด มลภาวะ
ดูอย่างไรในการเลือกซื้อ
การเลือกซื้อเซรั่มหน้าขาวใส เราจะเลือกอย่างไรให้มีความปลอดภัย ไม่แพ้ อ่อนโยนต่อผิวหน้าเรา
1.ดูจากส่วนผสมของเซรั่มหน้าใสมีส่วนผสมอะไร
โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
-สารที่ช่วยลดการผลิตเม็ดสี หรือที่เราเรียกกันว่าไวเทนนิ่ง ที่มักอยู่ในเซรั่มหน้าขาวใส อาทิ สารสกัดจากชะเอม กรดโคจิก อาร์บูติน ซึ่งสารเหล่านี้มีหน้าที่คอยเข้าไปยับยั้งการเกิดเม็ดสี
ทำให้เม็ดสีในร่างกายเราเป็นผลทำให้ผิวหน้าของสาว ๆ ขาวขึ้น แต่หากหยุดใช้แล้ว สีผิวของเราก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิม
-สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกรด เช่น กรดผลไม้จากมะขาม กรดน้ำนม ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ลอกผิวหนัง ทำให้หน้าขาวใส แต่ถ้ามีปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้ผิวลอกแดงแสบได้
2.เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว โดยตรวจสอบสภาพผิวหน้าของตัวเอง
ผิวธรรมดา ลักษณะของผิวจะไม่มัน ไม่แห้ง มีรูขุมขนขนาดเล็ก เนื้อผิวเนียนนุ่ม เนื่องจากผิวสามารถผลิตน้ำมันได้อย่างสมดุล เซรั่มบำรุงสำหรับผิวธรรมดาจึงสามารถใช้ได้หลากหลาย
ผิวมัน ลักษณะของผิว มีรูขุมขนกว้าง เป็นสิวอุดตันง่าย มีปัญหามากที่สุดในเรื่องของการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป หากปล่อยให้ผิวหน้ามัน จะทำให้ใบหน้าหมองคล้ำง่าย โทรมไว และปัญหาสิวรุมเร้า
เซรั่มที่เลือกใช้ควรเน้นช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า ตามมาด้วยการปรับสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง เพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ใบหน้าสดใส
ผิวแพ้ง่าย โดยลักษณะของผิวนั้นจะ มีอาการแพ้ ผดผื่น ดังนั้นส่วนประกอบที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการผลัดเซลล์ผิว เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น
หลีกเลี่ยงส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
3.ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไร้สารปรอทแอมโมเนีย
ที่อาจส่งผลต่อไต ระบบประสาท หรือสารไฮโครควิโนนที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
4.มีส่วนผสมจากน้ำแร่ธรรมชาติ
เพื่อที่จะช่วยทั้งปรับสมดุล และเก็บกักความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มผิวได้เป็นอย่างดี
5.เลือกส่วนประกอบที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นสูง
6.เลือกเนื้อเซรั่มที่ซึมซับสู่ชั้นผิวได้ดี
เลือกเซรั่มที่สามารถซึมลึกที่เซลล์ผิวชั้นนอกได้ดีและคงอยู่สภาพได้นาน ๆ
7.ราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพและแบรนด์
บางครั้งราคาในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ แทบจะไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพ ในบางครั้ง ราคาแพง ก็ใช่ว่าจะให้ผลดี มากกว่า เซรั่มช่วยให้หน้าใสราคาถูกกว่าที่มีส่วนผสมของสารสกัดชั้นดี
8.ปริมาณบรรจุ
เนื่องจากเซรั่มช่วยให้หน้าใสบางยี่ห้อส่วนประกอบ สารสกัดโดยรวมมีความเข้มข้นสูงซึ่งมีประสิทธิภาพมากนั้น มักจะมีปริมาณบรรจุที่น้อย
9.มีเลข อย. และเลขที่ใบรับแจ้ง
ความหลากหลายของส่วนผสมสารบางตัวจะต้องได้รับการตรวจสอบ การรับรองจากองค์การอาหารและยา
10.ศึกษาแบรนด์ / ยี่ห้อของเซรั่มช่วยให้หน้าใส
เนื่องจากในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์หลายยี่ห้อ ในราคาที่แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติและแบรนด์ ควรเลือกใช้สูตรที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า และเลือกศึกษาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
11.ศึกษารีวิวผู้ใช้งานจริง
ศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพจากผู้ใช้จริง จากผู้ที่มีสภาพผิวหน้าใกล้เคียงกับผิวของเราเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อ
12.วัน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ
ข้างกล่องบรรจุภัณฑ์ จะต้องมีวัน เดือน ปีผลิตที่ชัดเจนระบุไว้ข้างกล่องหรือตัวผลิตภัณฑ์ โดยอายุการใช้งานเครื่องสำอาง มักจะมีอายุตั้งแต่ 2-5 ปี
13.ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานจริง
ควรตรวจสอบโดยการทาลงบนท้องแขนหรือข้อพับ เพื่อทดสอบอาการแพ้เบื้องต้น ทิ้งไว้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง
1. ก่อนทาเซรั่มให้ทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดเสียก่อนเพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี การใช้น้ำอุ่นจะช่วยขยายรูขุมขน ทำให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดีกว่าใช้น้ำเย็นซึ่งจะทำให้รูขุมขนปิด
2. ทาเซรั่มบนผิวที่ชื้น
การทาเซรั่มในผิวที่ชื้นจะช่วยให้ซึมผ่านได้ดีกว่าผิวแห้งๆ ถึง 10 เท่า
3. ทาครั้งละน้อย ๆ ก็เพียงพอ
เซรั่มในแต่ละตัวมีความเข้มข้นสูง ทาเพียงไม่กี่หยดหรือกะดูไม่เกินเม็ดถั่ว ก็เพียงพอแล้ว
4. ใช้ร่วมกับมอยซ์เจอไรเซอร์
เซรั่มไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นผิว ควรทาควบคู่กันกับครีมอย่างอื่น เพื่อประสิทธภาพสูงสุด ก่อนลงครีมตัวอื่นต้องรอให้เซรั่มซึมเข้าผิวหมดก่อน ควรรอสัก 5 นาทีก่อนลงครีมอื่น ๆ
5. หลีกเลี่ยงเซรั่มที่มีกลิ่นหอม ๆ หรือกลิ่นน้ำหอม
เพราะบางครั้งอาจมีส่วนผสมของน้ำหอมทำให้ระคายเคืองได้