โรคตาแดงคือ สาเหตุ อาการ การดูแลรักษาและป้องกัน
Table of Contents
โรคตาแดง
โรคตาแดง (Red eye)หรือ “โรคเยื่อตาขาวอักเสบ” คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของดวงตา เป็นการอักเสบของชั้นเนื้อเยื่อใสที่คลุมอยู่บนตาขาว ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนหรือแดงจัด จากการอักเสบและเส้นเลือดฝอยขยายตัว
โดยผู้ป่วยโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่ที่พบส่วนใหญ่มักเป็นเชื้อไวรัส โดยเฉพาะเชื้อไวรัส adenovirus ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับโรคหวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเป็นการติดต่อจากการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง
โรคตาแดง สาเหตุ
โรคตาแดงเกิดได้จากหลายสาเหตุ
-สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการตาแดง คือ หลอดเลือดบริเวณผิวดวงตาอักเสบจากการระคายเคืองต่อปัจจัยต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ขึ้นตา โดยปกติเป็นโรคตามฤดูกาล การอักเสบเกิดจากสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดผิวหนังของสัตว์ หรือฝุ่นละออง ควัน อากาศแห้ง และแสงแดด ซึ่งทำให้คันตา หรือตาบวม และบางครั้งอาจทำให้ตาแห้ง
-เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ตาจากมือที่ไม่ได้ล้างหรือโดนพื้นผิวที่ไม่สะอาด เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมักจะทำให้เกิดความเจ็บปวดมาก และอาจมีขี้ตามาก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ตาควรได้รับการรักษาในทันที
-เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อไวรัส เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายมาก และสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะที่มีบริเวณกว้าง เช่น โรงเรียน หรือสนามบิน เยื่อบุตาอักเสบจากไวรัสมักมีอาการไข้หวัดร่วมด้วย
และสามารถทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง หรือมีขี้ตาใส หนา โรคติดเชื้อไวรัสทุกชนิด ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยทันที แต่อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ หายได้เอง โดยอาจจะใช้เวลาหลายวัน
-ตาแดงเพราะตาแห้ง เนื่องจากเกิดความระคายเคืองและมีการอักเสบได้ และการอักเสบนี่เอง ที่ทำให้ตาแดง ซึ่งเมื่อมีอายุมากขึ้น คือประมาณ 50 ปีขึ้นไป ก็จะมีอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากยังอยู่ในวัยเด็ก หรือวัยหนุ่มสาว แล้วมีอาการดังกล่าว อาจจะเป็นเพราะการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป
-ตาแดงเพราะมีอาการแพ้อากาศ สภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการแพ้ได้ เป็นผลให้ตาบวม แดง อักเสบได้ นอกจากนี้เมื่อเรามีอาการแพ้ เรามักจะคันตาร่วมอยู่ด้วย
-ตาแดงเพราะการใช้ยาบางชนิด ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีน ยานอนหลับ ยาคลายเครียด หรือแม้กระทั่งยาแก้ปวด พวก ibuprofen ยาพวกนี้ ทำให้ตาแห้ง และแดงได้เช่นกัน เพราะมันไปลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณเนื้อเยื่อรอบดวงตา
-ตาแดงเพราะนอนไม่พอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนดึก ก็ทำให้ตื่นขึ้นมาตาแดงในตอนเช้าได้
-ตาแดงเพราะดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็ทำให้ตาแดง เพราะแอลกอฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยายตัว มีปริมาณเลือดไหลเวียนที่ดวงตามากขึ้น
-ตาแดงเพราะสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะไปบีบเส้นเลือดในดวงตา นอกจากนี้ ยังอาจจะเกิดอาการตาแห้งได้ด้วย
-ตาแดงเพราะเส้นเลือดในตาแตก เกิดจากเพราะไอบ่อย มีแรงกดที่ตา อาการมักไม่ทำให้เจ็บปวด เพียงแต่จะรู้สึกหนัก ๆ ที่ตาเท่านั้น จะค่อย ๆ หายไปเอง ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
อาการตาแดง อาการ
-อาการตาแดงอาจเป็นแค่ตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างพร้อม ๆ กัน ซึ่งแตกต่างกันไปตามสาเหตุด้วย
-แสบตา น้ำตาไหล ขนตาร่วง
-คันตา หรือคันบริเวณเปลือกตา
-เปลือกตาบวม หรือเปลือกตาอักเสบและลอก
-มีขี้ตาเหลวหรือเป็นก้อนแข็ง
-ตาพร่า มองเห็นภาพไม่ชัด
-ปวดศีรษะ มีไข้ และไอ
ทั้งนี้ หากผู้ป่วยตาแดงมานานเกิน 2 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
หากผู้ป่วยตาแดงและมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
-การมองเห็นเปลี่ยนไป หรือมองเห็นแสงกระจายเป็นรัศมีรอบ ๆ ดวงไฟ
-ตาไวต่อแสง
-รู้สึกเหมือนมีอะไรในตา ปวดตา
-มีวัตถุแปลกปลอมในตา หรือสารเคมีเข้าตา
-มีอาการบวมในหรือนอกดวงตา
-ลืมตาหรือหลับตาไม่ได้
-ปวดหัวรุนแรง หรือปวดหัวร่วมกับอาการสับสนและมองเห็นไม่ชัด
-เป็นไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส คลื่นไส้ อาเจียน
อาการตาแดงที่อันตรายมาก ได้แก่
1. ตาแดงจากการติดเชื้อหนองใน ตาแดงประเภทนี้ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่สามารถทะลุเข้าไปในกระจกตาได้ แบคทีเรียชนิดนี้ สามารถทำลายผิวกระจกตาจนเสียหาย รุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ หากภายใน 24–48 ชั่วโมงไม่ได้รับการรักษาเชื้ออาจทะลุตาดำโดยง่าย
2. ตาแดงจากต้อหินเฉียบพลัน อาการเบื้องต้นจะมีอาการตาแดง รอบ ๆ ตาดำจะแดงระเรื่อตลอดเวลา กระจกตาจากเดิมที่เคยใสจะมัวขุ่น รูม่านตาขยาย มีอาการปวดตา ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย รวมถึงการมองเห็นลดลงหรือแย่ลง ต้อหินเฉียบพลันเกิดจากมีความดันในลูกตาสูงกว่าปกติ จึงทำให้เกิดอาการเหล่านี้ ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษาอาจตาบอดได้
โรคตาแดง รักษา
-อาการตาแดงอาจดีขึ้นหรือหายได้เองโดย หากไม่ขยี้ตาจนทำให้อาการแย่ลง เช่น ตาแดงจากโรคภูมิแพ้ อาจหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกำจัดสารก่ออาการแพ้ออกไป
-ส่วนอาการตาแดงจากโรคเยื่อบุตาอักเสบอาจคงอยู่นานร่วม 2 สัปดาห์
-หากผู้ป่วยไม่แน่ใจว่าตนเองตาแดงจากสาเหตุใด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
-อาการตาแดงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ ได้แก่ ยาหยอดตา และอาจมียาป้ายตา ในคนไข้บางรายอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะแบบรับประทานและแบบฉีดร่วมด้วย
-อาการตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง แต่บางรายอาจต้องใช้ยาต้านไวรัส การใช้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดอาการคัน ยาลดปวด อาจช่วยบรรเทาอาการและทำให้สบายตามากขึ้น
-อาการตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้ การประคบเย็นสามารถช่วยลดการอักเสบได้ รวมถึงการหยอดน้ำตาเทียมที่ช่วยให้สบายตา
-อาการตาแดงที่เกิดจากสัมผัสสารเคมีหรือสารพิษ ใช้น้ำสะอาด หรือ Saline solution หรือ Ringer’s lactate solution ในปริมาณที่มากล้างตาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่วมกับการใช้ยารักษาตามอาการ
วิธีการรักษาบรรเทาอาการตาแดง
-พักสายตา เพื่อบรรเทาอาการตาล้า
-ประคบร้อนหรือประคบเย็นที่ดวงตา เพื่อลดอาการปวดบวม
-ล้างตาด้วยน้ำเกลือ น้ำอุ่น หรือน้ำเย็น เพื่อลดการระคายเคือง
-ใช้ยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียม หากตาแดงจากอาการตาแห้ง
-รับประทานยาแก้แพ้ หากตาแดงจากอาการแพ้
-หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสดวงตาแม้จะล้างมือสะอาดแล้วก็ตาม
-หลีกเลี่ยงสารก่ออาการแพ้ หรือออกจากบริเวณที่มีสารก่ออาการแพ้
หากรักษาตาแดงด้วยวิธีดังกล่าวแล้วอาการไม่ทุเลาลง ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
ภาวะแทรกซ้อนของตาแดง
-ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ของอาการตาแดงที่ไม่ได้รับการรักษา
-เกิดแผลเป็นในดวงตา สูญเสียดวงตา
-การติดเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของดวงตาหรือร่างกาย
-มีปัญหาในการมองเห็น ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันได้
-สูญเสียการมองเห็นบางส่วน หรือตาบอด
โรคตาแดง การป้องกัน
โดยทั่วไป การป้องกันอาการตาแดงอาจทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงสารก่อการระคายเคืองต่าง ๆ ที่อาจทำให้ตาแดง ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
-ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ก่อนสัมผัสใบหน้าและบริเวณดวงตา
-เมื่อมีสิ่งสกปรกเข้าตา ให้ล้างดวงตาด้วยน้ำสะอาด
-หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางแต่งตาร่วมกับผู้อื่น และเปลี่ยนเครื่องสำอางแต่งตาทุก ๆ 6 เดือน
-หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเพ่งสายตาหรือใช้สายตามาก ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการตาล้า
-ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกินกำหนด และห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น และควรล้างคอนแทคเลนส์ให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ
-ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า และหมอนร่วมกับผู้อื่น
-ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มือ การมีเจลล้างมือเตรียมไว้เพื่อพร้อมใช้สามารถช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตาแดง ฝึกปิดจมูกและปากทุกครั้งเวลาจามหรือไอ และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสตา
-ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอนปลอกหมอน และผ้าเช็ดตัวอย่างสม่ำเสมอ
-หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้สารเคมีรุนแรง หรือสวมแว่นตาป้องกันเมื่อต้องอยู่ในบริเวณที่มีสารเคมี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก…
1. https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/378/ตาแดง…สัญญาณเตือนภัยใกล้ตัว/
2. https://www.pobpad.com/ ตาแดง
3. http://theworldmedicalcenter.com/ /th/new_site/health_article/detail/?page=โรคตาแดง
4. https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/อาการตาแดง-ชนิดอันตราย/