สิวที่หลัง การดูแล รักษาและป้องกัน
Table of Contents
สิวที่หลัง
สิวที่หลัง การดูแล รักษาและป้องกัน
“สิว” เป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้หลายคน เพราะรบกวนได้ทั้งบริเวณผิวหน้า ผิวกาย รวมไปถึงแผ่นหลัง ทำให้ขาดความมั่นใจ และวันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับสิวบนหลังมาฝากและใครที่กำลังประสบปัญหาสิวบนหลังอยู่
วันนี้เรามีวิธีรักษาและป้องกันสิวบนหลังมาแนะนำก่อนจะมาดูวิธีรักษาและการป้องกันเรามารู้จักสิวบนหลังกันก่อนพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ
สิวบนหลังเกิดจากอะไร
สิวที่หลัง มักเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอจนทำให้เกิดเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดสิวบนหลังได้ค่ะ
ชนิดของสิวที่หลัง
สิวบนหลังมีหลายชนิดสามารถแบ่งออกเป็นข้อย่อย ๆ ได้ดังนี้
-สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว
-สิวหัวดำ เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ
-สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส อาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปดึงหรือบีบ
-สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและจะมีอาการแดงบริเวณรอบ ๆ หัวสิว ไม่ควรดึงหรือบีบเพราะอาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้
-สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บหรือปวด เมื่อเอามือไปสัมผัส
-สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น สิวหัวช้างมักเป็นสิวระดับรุนแรง
สาเหตุของการเกิดสิวบนหลัง
1.ที่นอนไม่สะอาด
ความไม่สะอาดของเครื่องนอนสามารถทำให้เป็นสิวบนหลังได้ โดยปกติแล้วเราควรเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
2.เช็ดตัวไม่แห้ง
ไม่รีบเช็ดผมและเช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำเสร็จจึงทำให้แผ่นหลังเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา และเมื่อสวมเสื้อผ้าก็จะมีความอับชื้น ทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมและทำให้เกิดสิวบนหลังได้
3.กินแต่ของมันของทอด
การกินของทอดของมันเป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะผิวมันมากขึ้นจึงทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวบนหลังได้ง่าย
4.ไม่เปลี่ยนชุดนอน
การที่ไม่เปลี่ยนชุดนอนเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวบนหลังได้เพราะแผ่นหลังสัมผัสกับชุดนอนอยู่ตลอดเวลาซึ่งทำให้เกิดคราบเหงื่อและความอับชื้นสะสมมากขึ้นจนทำให้เกิดสิวบนหลังได้นั่นเอง
5.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดีพอ
การสวมเสื้อหนาหรือสวมเสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศทำให้เกิดเหงื่อและเสื้อมีความอับชื้นและเป็นบ่อเกิดของการสะสมของแบคทีเรียจึงทำให้เกิดสิวบนหลังได้เช่นกัน
6.เหงื่อ
หลังจากที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ จากข้างนอกมาพอถึงบ้านเราควรอาบน้ำทันทีไม่ควรให้เหงื่อแห้งไปกับเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ หากเราทิ้งให้เหงื่อที่เปียกโชกแห้งไปกับเสื้อโดยที่เราไม่ได้ทำความสะอาดอาจจะทำให้เราเป็นสิวบนหลังได้
7.แชมพู
ไม่ควรใช้แชมพูหรือสบู่ที่ล้างออกยากเพราะชมพูหรือสบู่ที่ล้างออกยากล้วนแต่ทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีต่าง ๆ และสารเหล่านี้จะสะสมในผิวหนังและกลายเป็นสิวได้ในที่สุดค่ะ
8.ผงซักฟอก
อย่าใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรงเนื่องจากผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรงล้วนมีส่วนประกอบของสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงเมื่อเราสวมใส่เสื้อผ้าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวพรรณและก่อให้เกิดสิวได้เช่นกันค่ะ
การดูแลรักษาเมื่อเป็นสิวที่หลัง
1.ทำความสะอาดและหมั่นขัดผิวเป็นประจำ
หมั่นทำความสะอาดผิวให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงหมั่นขัดผิวเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
อาจขัดด้วยใยบวบ หรือขัดด้วยเกลือขัดผิวก็ได้ค่ะ การขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวและลบเลือนรอยสิวบนหลังได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดขัดผิวตอนที่เกิดสิวอักเสบนะคะ เพราะการขัดผิวในขณะที่เกิดสิวอักเสบจะยิ่งทำให้ระคายเคือง และสิวเห่อมากขึ้นได้ค่ะ
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน และของหวาน แต่ควรเน้นรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส รวมถึงดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวค่ะ
3.ทาทีทรีออยล์
ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยมีวิธีทำดังนี้ ใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะ ๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลงได้ค่ะ
4.พอกหลังด้วยดินสอพอง และมะนาว
โดยมีวิธีทำ ดังนี้ นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด
ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และทำให้รอยสิวจางลงได้อีกด้วยค่ะ
5.พอกหลังด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้โดยมีขั้นตอนและวิธีทำดังนี้ เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรือจะใช้เจลว่านหางจระเข้ก็ได้เพียงนำเจลว่านหางจระเข้มา 1 ช้อนโต๊ะ
แล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และผงขมิ้นชัน ผสมเข้าด้วยกัน และนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้อีกด้วยค่ะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวบนหลัง มีดังนี้
-ใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ หากเหงื่อออก เสื้อผ้าหลวม ๆ จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายและระบายเหงื่อได้ดี แต่หากสวมเสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวเกินไปจะทำให้เกิดเหงื่อและเกิดการหมักหมมสิ่งสกปรกไว้พร้อมทั้งการสวมเสื้อที่พอดีตัวยังทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณผิวหนังหรือรูขุมขนทำให้เกิดสิวอักเสบได้
และการถอดเสื้อออกกำลังกายในบริเวณที่พื้นสกปรกหรือบริเวณที่เครื่องเล่นเต็มไปด้วยเหงื่อก็อาจก่อให้เกิดสิวได้ ทางที่ดีเราควรแก้ไขพฤติกรรมการแต่งตัวของเราให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิวบนหลังจะดีที่สุดค่ะ
-เลือกใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสม ไม่ควรใช้ครีมที่มีความมันมากเกินไป เพราะครีมที่มีความมันมากเกินไปอาจจะทำให้รูขุมขนอุดตันได้
ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันและเบาบางต่อผิว ครีมกันแดดสำคัญมากในการป้องกันผิว โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลือยหลังต่อแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ ค่ะ
-ไม่ให้ผมสัมผัสโดนหลัง เพราะร่างกายคนเรามักผลิตน้ำมันออกมาสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผมอยู่เสมอ หากปล่อยให้ผมสัมผัสกับหลังอยู่บ่อย ๆ สิ่งสกปรกหรือน้ำมันจากผมอาจก่อให้เกิดสิวบนหลังได้
ทางที่ดีคุณควรมัดผมหรือรวบผมเวลาที่มีเหงื่อและสระผมให้สะอาดอยู่เสมอ รวมไปถึงพยายามไม่ให้ครีมนวดผมหรือแชมพูไหลผ่านหลัง เพราะส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาจทำให้รูขุมขนอุดตันและกลายเป็นสิวได้ค่ะ
-อาบน้ำหลังออกกำลังกาย เมื่อคุณออกกำลังกายเสร็จคุณควรอาบน้ำให้เร็วที่สุดหลังจากเล่นกีฬาทุกครั้ง เพราะเหงื่อที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
-ขัดผิวอย่างอ่อนโยน การขัดผิวช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวหนัง รวมไปถึงลดจำนวนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่มักไปอุดตันรูขุมขน แต่ไม่ควรขัดผิวรุนแรงหรือบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้
บทสรุป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีดูแลรักษาและป้องกันการเกิดสิวบนหลังที่เราได้นำมาฝากให้กับคุณในวันนี้ และการรักษาสิวที่ได้ผลดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดสิวตั้งแต่แรกด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้คุณห่างไกลจากสิวอันไม่พึงประสงค์บนแผ่นหลังของคุณได้แล้วค่ะ