ครีมกันแดดหน้า ก่อนเลือกซื้อควรดูอะไรบ้าง

ครีมกันแดดหน้า

ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ เลือกใช้กันมากในปัจจุบัน  เนื่องจากสภาพอากาศในบ้านเราเป็นเมืองร้อน จึงต้องให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันแสง UV มาทำร้ายผิวของเราได้

และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย และแก่ก่อนวัยอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องทาครีมกันแดด เป็นวิธีที่ง่ายในการรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพผิวดีมากยิ่งขึ้น

ครีมกันแดดหน้าคืออะไร

ครีมกันแดด คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV (Ultraviolet Radiation: UV) โดยช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลายจนไหม้หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง

ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตกลับออกไป ทั้งนี้ ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หรือสเปรย์

ครีมกันแดดหน้ามีกี่ประเภท

ครีมกันแดดสามารถแบ่งประเภทได้ตามกลไกการป้องกันแสงแดดและ ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทาได้ดังนี้

ประเภทตามกลไกป้องกันแสงแดด

-Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ

นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย

-Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก

แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้เมื่อทาบนผิวหนังแล้วจะให้สีที่มีความขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย

-แบบผสม Chemical-Physical Sunscreen เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน

ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา

ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ซึ่งอาจแบ่งประเภทตามบริเวณที่ใช้ทาครีมกันแดด โดยทั่วไปแล้ว ครีมกันแดดจะมีทั้งแบบโลชั่น ครีม เจล ขี้ผึ้ง สเปรย์

หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ซึ่งมีประโยชน์ใช้สอยและเหมาะกับการใช้ทาเพื่อปกป้องแสงแดดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

-แบบครีม เหมาะใช้ทาบริเวณใบหน้าและผู้ที่มีผิวแห้ง

-แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขน เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย

-แบบแท่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแท่ง อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย ซึ่งเหมาะใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา

-แบบสเปรย์ สารกันแดดในรูปแบบสเปรย์อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย โดยควรทาสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ

วิธีเลือกครีมกันแดดหน้าให้เหมาะกับผิว

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับผิวของตัวเอง เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะผิวแต่ละชนิดเหมาะกับครีมกันแดดแตกต่างกัน สามารถเลือกใช้เพื่อให้เข้ากับผิวได้ดังนี้

-ผิวขาวแบบชาวยุโรป เป็นผิวบางมาก เกิดผิวไหม้ง่ายมากหลังสัมผัสกับแสงแดด จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 45-60

-ผิวขาวอมชมพูในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บอบบางมาก เกิดผิวไหม้ได้ไว เกิดผิวสีแทนได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30-45

-ผิวขาวเหลืองในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บางแต่ยังมีเมลานินอยู่บ้างจึงสามารถทนต่อแสงแดด การเกิดผิวหนังร้อนแดงได้ช้ากว่าผิว 2 ชนิดแรก ควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF ปานกลาง SPF30

-ผิวคล้ำ มีเมลานินสูง ผิวสีน้ำตาลไม่เกิดการไหม้ ไม่เกิดสีแทน ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำ SPF 15

ครีมกันแดดหน้า ก่อนเลือกซื้อควรดูอะไรบ้าง

-เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม สามารถปกป้องผิวได้จากรังสี UVA และ UVB เนื่องจากครีมกันแดดทุกตัว จะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB

บนฉลากผลิตภัณฑ์จะระบุว่า Broad-Spectrum ส่วนครีมกันแดดที่ไม่ได้ระบุข้อความดังกล่าว จะสามารถป้องกันผิวไหม้ได้แต่ไม่สามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังและผิวแก่ก่อนวัยได้

-ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่นมี SPF ตั้งแต่ 15 30 และ 50 เพื่อบ่งบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสี UVB ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะกรองรังสี UVB ได้ร้อยละ 93 ครีมกันแดดที่มีค่า 30 จะกรองได้ร้อยละ 97

และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 15 สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือผิวแก่ก่อนวัยได้

-เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ หรือที่ระบุบนฉลากว่า Water proof or water resistant โดยครีมกันแดดชนิดนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างที่ว่ายน้ำหรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40-80 นาที ผู้ใช้ควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

-ควรเลือกครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ผสมไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้น้อย เลี่ยงใช้ครีมกันแดดที่ผสมกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenzoic Acid: PABA) หรือกรดพาบา

หรือผสมเบนโซฟีโนน (Benzephenones) เช่น ไดออกซิเบนโซน (Dioxybenzone) ออกซิเบนโซน (Oxybenzone) หรือซอลลิเบนโซน (Sulisobenzone) รวมทั้งครีมกันแดดที่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม และวัตถุกันเสีย

-ทดสอบการแพ้ครีมกันแดดก่อนใช้เสมอ ด้วยการนำครีมกันแดดมาทาใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาที แล้วสังเกตว่ามีอาการบวมแดงหรือไม่ ถ้ามีอาการดังกล่าวแสดงว่าเราแพ้สารเคมีจากครีมกันแดดชนิดนั้น ๆ

ทาครีมกันแดดหน้าอย่างไรให้ได้ผล

-หลังจากความสะอาดหน้าแล้ว แต้มครีมกันแดดบริเวณ 5 จุด คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้าง คาง และลำคอ ในปริมาณพอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

หากใช้ในปริมาณที่น้อยจนเกินไป อาจทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UV ไม่เห็นผลเท่าที่ควร อาจทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ

-ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางเกลี่ยเนื้อครีม โดยลงน้ำหนักนิ้วให้เบาที่สุด เพราะผิวหน้าเราบอบบางมาก เริ่มจากบริเวณโหนกแก้ม ตามด้วยแนวสันจมูก คาง และหน้าผาก

การทาครีมที่คอนั้นให้ใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับที่ใบหน้า เริ่มจากฐานลำคอแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อย ๆ ลูบไล้ขึ้น

-ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที ครีมกันแดดส่วนใหญ่มีผลในการปกป้องแสงแดดได้ก็ต่อเมื่อทาลงไปบนผิวนานมากกว่า 20 นาทีแล้วเท่านั้น

หากออกแดดทันทีหลังจากทาครีมกันแดดเสร็จผิวอาจไหม้แดดได้โดยไม่รู้ตัว เป็นที่มาของความสงสัยที่ว่าทำไมทาครีมกันแดดแล้วยังดำอยู่นั่นเอง

-เราควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง ด้วยมลภาวะทั้งฝุ่น ควัน น้ำหรือเหงื่อ ประสิทธิภาพของครีมกันแดดนั้นจะลดลงในทันที ทางที่ดีควรพกครีมกันแดดขนาดเล็กติดตัวไว้ แล้วนำออกมาทาซ้ำอีกรอบช่วงบ่ายจะดีที่สุด

บทสรุป

ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสาว ๆ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ได้เป็นอย่างดี ก่อนการใช้ครีมกันแดด ควรศึกษาหารายละเอียดก่อน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

สาว ๆ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดควบคู่ไปกับการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยเช่น การใส่เสื้อคลุมแขนยาว ใส่หมวก หรือกางร่ม เป็นวิธีที่ช่วยทำให้การใช้ครีมกันแดดเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..
https://www.pobpad.com/ครีมกันแดด-เลือกใช้อย่า